อนามัยโพลพบคนไทย 75% กังวลโควิดพันธุ์ใหม่ติดง่าย คาดสงกรานต์ติด 50,000-100,000 คน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงผลสำรวจอนามัยโพล ความรู้สึกกังวลของประชาชนต่อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ว่า จากการสำรวจพบว่า ประชาชน 3ใน 4 หรือคิดเป็น 75% มีความกังวลเกี่ยวกับเชื้อโควิดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในจำนวนนี้มีถึง 85% กังวลเพราะไม่รู้ว่าเชื้อโควิดที่มีการกลายพันธุ์แล้วอันตรายแค่ไหน, 54% กังวล เพราะเชื้อไวรัสครั้งนี้ติดได้ง่าย และ 44% กังวล เพราะไม่รู้ว่าวัคซีนป้องกันเชื้อโควิดได้แค่ไหน และยังมีความกังวลอื่นๆ เช่น กังวลได้รับผลกระทบต่อรายได้ ขณะเดียวกันมีแค่ 25% ไม่กังวล เนื่องจาก 78% ที่ไม่กังวล เพราะป้องกันตนเองได้ดี และ 44% ไม่กังวล เพราะฉีดวัคซีนแล้ว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับข้อมูลความรู้เรื่องรายละเอียดที่ประชาชนต้องการเพื่อใช้รับมือโควิด พบว่า 64% ต้องการรายละเอียดความรู้เกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ทั้ง BA.1 ,BA.2,XE,XJ และพบว่ามี 49% ต้องการความรู้วิธีการดูแลป้องกันเพิ่มเติมในกลุ่มเด็ก และผู้สูงอายุ ส่วนอีก 48% ต้องการวิธีการหรือความรู้ในการป้องกันตนเองต่อโควิดสายพันธุ์ใหม่ พร้อมย้ำว่า โควิดทุกสายพันธุ์ มาตรการป้องกันตนเองยังต้องเคร่งครัดเหมือนเดิม สวมหน้ากากอนามัย มีระยะห่าง โดยพบว่าการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 สามารถป้องกัน การเสียชีวิตได้ถึง 98-99% หากเดินทางไปในสถานที่เสี่ยง หรือบุคคลเสี่ยง ควรสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น และใช้แอลกอฮอล์ล้างมือ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากการติดตามและเปรียบเทียบสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 63-64 ในช่วงเวลาเดียวกัน และหลังเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่ 18 เมษายนเป็นต้นไปนั้น พบว่าในปี 63 มีการบังคับมาตรการอย่างเคร่งครัด ปิดกิจกรรมกิจการ งดการเดินทาง ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในช่วงสงกรานต์ปี 63 ตั้งแต่ 13-15 เมษายน และหลังสงกรานต์ 18 เมษายน -1 พฤษภาคม 63 พบผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนน้อย แต่ในปี 64 ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการ ทำให้สถิติการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้นคาดการณ์ว่าในปี 65 ช่วงสงกรานต์นี้มีการคนเดินทางจำนวนมาก มีทั้งกิจกรรม เสี่ยง บุคคลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง จะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดนคาดการณ์ว่าพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 5 หมื่นคน ถึง 1 แสนคน หากป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถควบคุมป้องกันการติดเชื้อได้ดี ทำให้พบผู้เสียชีวิตไม่ถึง 250 คนต่อวัน และไม่กระทบต่อระบบบริการสาธารณสุข