อนามัยโลกเตือนยังเร็วเกินไปที่จะเรียกโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น

381
0
Share:
อนามัยโลก

แคทเธอลีน สมอลล์วูด หนึ่งในผู้บริหารอาวุโส องค์การอนามัยโลก ภูมิภาคยุโรป เปิดเผยว่า ขอเตือนประเทศที่กำลังจะปรับเปลี่ยนสถานะของโรคโควิด-19 จากโรคระบาด หรือ Pandemic มาเป็นโรคประจำถิ่น หรือ Endemic ภาวะในปัจจุบันยังคงเต็มไปด้วยคยามไม่แน่นอนมากมาย และเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จะเรียกว่าโรคประจำถิ่น

ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสถานะของโรคระบาดโควิด-19 ไปเป็นโรคประจำถิ่น ได้ถูกพูดถึงโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สหราชอาณาจักร นายนาดฮิม ซาฮาวี โดยมองว่า สหราชอาณาจักรจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่จะเปลี่ยนผ่านจากโรคระบาดโควิด-19 ไปเป็นโรคประจำถิ่น

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวเตือนต่อไปว่า ผลการศึกษาจำนวนไม่น้อย นำเสนอบทสรุปว่าความเสี่ยงของการเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ลดน้อยลงกว่าสายพันธุ์เดลต้า แค่องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่าต้องทำการศึกษาในประเด็นดังกล่าวอีกมาก จึงจะสามารถพิสูจน์ข้อสรุปดังกล่าวได้

นอกจากนี้ นายแพทย์ฮานส์ ครูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ภูมิภาคยุโรป เปิดเผยว่า โรคระบาดโควิด-19 จะระบาดรุนแรงในทวีปยุโรป ทำให้ประชาชนชาวยุโรปจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เกินกว่า 50% ของทั้งหมดใน 6-8 สัปดาห์ หรือในอีก 2 เดือนข้างหน้า ในขณะที่เมื่อสัปดาห์แรกของปี 2565 ที่ผ่านไป พบประชาชนชาวยุโรปติดโรคระบาดโควิด-19 สะสมเกินกว่า 7 ล้านคน ซึ่งพุ่งสูงเกินกว่า 2 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ ระบบบริการสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันที่ 11 มกราคม 2565 ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 120,821 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสมเป็น 14,732,594 ราย ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 379 ราย ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 150,609 ราย