“อนุทิน”ย้ำไม่ยกเลิกแบน 3 สารเคมี

655
0
Share:

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสหรัฐระงับสิทธิ GSP กับสินค้าจากไทย อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีว่า จะไม่ทบทวนเรื่องดังกล่าวเพราะมีมติยกเลิกไปแล้วเพราะสารพิษ 3 ชนิด ไม่มีประโยชนและเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร การที่สหรัฐฯระงับ GSP เป็นสิทธิของเขา ซึ่งในคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขียนชัดเจนว่ายังไม่พอใจในเรื่องแรงงานของไทยที่ยังไม่มีมาตรฐาน ต้องไปดูว่าจริงหรือไม่ หากไม่จริงต้องโต้แย้งไป
.
ส่วนผลกระทบต้องมาดูว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน แม้จะเห็นจำนวนตัวเลขที่ออกมา แต้อย่าเพิ่งไปตื่นเต้นตกใจว่าไทยตายแน่ แต่ต้องมีความเชื่อมั่นในสินค้าไทยและความต้องการของตลาดโลก หากกลัวว่าจะขาดดุลการค้า ก็ลดการนำเข้าสินค้านั้นจากประเทศนั้นๆจะทำให้ไม่ขาดดุลการค้า
.
กรณีที่มีกระแสข่าวบิดเบือนเรื่องดังกล่าว เชื่อว่าคนที่เสียหายจะบิดเบือนทุกเรื่อง โกหกทุกเรื่อง พาลทุกเรื่อง เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันก็เอามารวมกัน แต่เราต้องนิ่ง และต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว เพราะการระงับสิทธิจีเอสพี สุดท้ายคนที่จะได้รับผลกระทบ ก็คือสหรัฐฯเองเช่นกัน เพราะต้องซื้อของเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาษีเพิ่มขึ้นและ คงโวยวายกันเองในบ้านของเขา

.
เราส่งของดีไปให้เขาถ้าเขาจะตัดสิทธิก็เท่ากับว่าการบริโภคอาหารหรือต้นทุนของสินค้าที่ถูกตัดสิทธิไปจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ถ้าของเราดีก็ไม่ต้องไปกลัว
.
แม้ทางสหรัฐฯจะอ้างผลการวิจัยขององค์การอนามัยโลก แต่ตนจะไม่อ้างผลวิจัยแบบเดียวกัน เพราะเห็นคนที่ถูกลวก ถูกสารพิษ แทบเห็นกระดูก คนเป็นมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลการรักษาของโรคที่ติดมาจากสารพิษเหล่านี้เยอะแยะ ไม่เห็นจะต้องไปวิจัยอะไรเลย ไม่เช่นนั้นโรงพยาบาลจะขึ้นป้ายคัดค้านทำไม และที่ขึ้นป้ายไม่ใช่เกลียดสารพิษนี้ แต่เขาขี้เกียจรักษาคนพวกนี้แล้ว ไม่ไหวแล้ว ทำไมไม่หยุดใช้สารพิษเสียที ปล่อยให้เกษตรกรมาเป็นผู้รับเคราะห์ จะให้คนไทยรับประทานอาหารดีๆ และปลอดภัยไม่ได้หรืออย่างไร
.
ที่สำคัญไม่ต้องส่งรายงานชี้แจงไปให้สหรัฐฯ ไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร หน่วยงานใดมีหน้าที่ชี้แจงก็ชี้แจงไป เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และคณะกรรมการวัตถุอันตรายถูกตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ ไม่ได้มาตามอารมณ์ หรือตั้งขึ้นมารองรับการแบนสารพิษเหล่านี้
.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากไปคาดเดาว่าตัดตรงนี้เพราะอะไร รัฐบาลทราบมาอยู่แล้วว่าจะมีปัญหาตรงนี้ ที่ผ่านมาก็แก้ปัญหามาตลอด กระทรวงพาณิชย์ได้เจรจาเยอะแยะ ข้อสำคัญจะเจรจาอย่างเดียวไม่ได้ ไทยก็ต้องแก้ไขปัญหาภายในด้วย และอยากบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่ไทยต้องตื่นตระหนก หรือให้ร้ายกันไปมา มันไม่เกิดประโยชน์
.
แต่ยังมีเวลาอีก 6 เดือน เราก็ต้องหาวิธีการพูดคุยกันต่อไป ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายของเขา อย่าให้เป็นปัญหาทางการเมืองอีก อย่าพูดให้ทุกอย่างมันเลวร้ายไปกว่าเดิม เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ต้องมีอยู่ เพราะคือคู่ค้าสำคัญของเราเหมือนกัน