อนุทินเผยการรักษาโคโรนาไทยไม่ใช่สูตรใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงยารักษาไวรัสโคโรนาฯ ที่ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ผ่านกระบวนการของทีมแพทย์รักษา ประกอบด้วย นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช อายุรแพทย์โรคปอด นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชวิถี และรศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่โตว่าค้นพบสูตรยาใหม่ เเต่นี่คือวิธีการรักษาจากประสบการณ์ ความชำนาญ ที่มาจากการใช้ความรู้ทางการแพทย์เป็นหลัก จึงไม่อยากให้สื่อสารว่าเป็นการพบยาสูตรใหม่
.
โดยหลังจากนี้นายแพทย์ทั้งสองจะจัดทำรายงานตัวอย่างผู้ป่วย เพื่อให้สถาบันวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัย ต่าง ๆ นำสถิติข้อมูลผลการรักษานี้ไปหาข้อเท็จจริงให้มากที่สุด เพื่อให้ผลการรักษาออกมาได้หายขาดทุกราย และน่าจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยทุกคนในโลกใบนี้ ถ้าทำได้ มาตรฐานการสาธารณสุขน่าเป็นที่น่าชื่นชมและนับถือของนานาอารยประเทศ
.
ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่รับการรักษามีทั้งหมด 19 ราย โดยขณะนี้มีอาการหายแล้ว 7 ราย กำลังจะหาย 4 ราย ส่วนที่เหลือมีอาการดีขึ้นโดยลำดับ
.
ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การประยุกต์สูตรยารักษาโคโรนาไวรัสนี้ ที่เป็นยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ และยาต้านไวรัสเอดส์ ริโทนาเวียร์ และโลพินาเวียร์ ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีได้ทำ และจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในโรงพยาบาลรวม 3 คน แต่พบว่า 1 คน มีอาการแพ้ยาจึงหยุด ขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 2 คนที่ยังรับยาอยู่อาการดีขึ้น ซึ่งเกณฑ์การจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่เป็นคนไข้ทั้งหมดทุกรายนั้นไม่สามารถระบุได้ เพราะการรักษาด้วยสูตรยานี้ยังไม่ได้เป็นมาตรฐานการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และการตัดสินใจ พร้อมต้องติดตามดูแล
.
ส่วนกระแสเรื่องการรักษาของไทยไม่ใช่ของใหม่ ยืนยันว่า เป็นความบังเอิญของความคิดที่แพทย์ไทย และจีนมีตรงกัน แต่ประยุกต์คนละสูตร โดยจ่ายยาต้านไวรัสเอดส์ ริโทนาเวียร์ รวมกับโลพินาเวียร์วันละ 2 เม็ด 2 เวลา ส่วนโอเซลทามิเวียร์ วันละ 2 เม็ด 2 เวลา ซึ่งสรรพคุณยาต้านเอดส์ช่วยยับยั้งการกระจายตัวของเชื้อ ส่วนยาต้านหวัดช่วยยับยั้งเชื้อที่เข้าไปในเซลล์