อสังหาฯ เปิดใหม่เมษายนมีแค่ 10 โครงการ ดำดิ่งหนักในรอบ 20 ปี ไม่มีเปิดตัวคอนโดใหม่ในเมษายนสะท้อนขาดความมั่นใจตลาดคอนโดมิเนียม เซ่นผลแผ่นดินไหวในกรุงเทพเมื่อ 28 มีนาคม ทั้งยอดจำนวนและมูลค่าเปิดใหม่ดิ่งเหวกว่า -80% และ -40% ตามลำดับ

อสังหา ฯ เปิดใหม่เมษายนมีแค่ 10 โครงการ ดำดิ่งหนักในรอบ 20 ปี ไม่มีเปิดตัวคอนโดใหม่ในเมษายนสะท้อนขาดความมั่นใจตลาดคอนโดมิเนียม เซ่นผลแผ่นดินไหวในกรุงเทพเมื่อ 28 มีนาคม ทั้งยอดจำนวนและมูลค่าเปิดใหม่ดิ่งเหวกว่า -80% และ -40% ตามลำดับ

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า การเปิดตัวที่อยู่อาศัยในเดือนเมษายน 2568 มีทั้งหมด 10 โครงการ ส่งผลทำสถิติการเปิดตัวที่อยู่อาศัยน้อยที่สุดรอบ 20 ปี หรือตั้งแต่ปี 2548 นอกจากนี้ ยังเป็นจำนวนโครงการน้อยกว่าเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถึง 8 โครงการ การเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในเดือนดังกล่าวประกอบด้วยจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่รวมทั้งสิ้น 688 หน่วย ลดลง 2,863 หน่วย หรือ -80.5% จากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเมษายน ได้แก่ อันดับ 1.บ้านเดี่ยว 79.4% อันดับ 2.ทาวน์เฮ้าส์ 16.7% และอันดับ 3 อาคารพาณิชย์ 16.3%

สาเหตุการเปิดตัวที่อยู่อาศัยลดร้อยลงมาก เป็นผลจากเดือนเมษายนมีวันหยุดยาวต่อเนื่องจำนวนมาก เหตุการณ์แผ่นดินไหวในกรุงเทพเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงทำให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวใหม่ในเดือนนี้ โดยเฉพาะอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียมที่ได้รับผลกระทบจากผู้บริโภคขาดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยยังคงมีอยู่ต่อเนื่องหลังเกิดแผ่นดินไหว ที่สำคัญ ในเดือนเมษายนไม่มีการเปิดตัวอาคารชุดเลย

ด้านมูลค่ารวมของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่ในเดือนเมษายน 2568 พบว่า มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 12,506 ล้านบาท ลดลง จากเดือนมีนาคมจำนวน 8,499 ล้านบาท หรือ -40.5% สำหรับมูลค่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเดือนเมษายนสูงสุด คือ อันดับ 1. บ้านเดี่ยว 91.6% อันดับ 2.บ้านแฝด 6.2% และอันดับ 3 คือ อาคารพาณิชย์ 1.3% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมด

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในเดือนเมษายน ปรากฏว่า ในกลุ่มบ้านเดี่ยว จะเป็นราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนบ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์มีราคา 5-10 ล้านบาทเป็นหลัก สาเหตุจากเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังจ่ายสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในขณะนี้ ดังนั้น ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากที่อยู่อาศัยแนวราบทที่มีระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงระดับราคาสูงเป็นกลุ่มหลักในเดือนเมษายน ดังนั้น ราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตในเมษายนเพิ่มขึ้น 205% เทียบจากเดือนมีนาคม โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนเมษายนอยู่ที่ 18.178 ล้านบาท สูงกว่าราคาขายเฉลี่ยในเดือนมีนาคมที่ 5.961 ล้านบาท

นั่นหมายถึง แนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเดือนเมษายนเน้นกลุ่มผู้ที่มีรายได้สูง มีความต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง และต้องการบ้านแนวราบที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลาง และเขตติดต่อเมือง ซึ่งสามารถเดินทางเข้าสู่เขตกรุงเทพชั้นในได้สะดวกเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ในด้านอัตราการขายได้ พบว่าในเดือนเมษายนมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 7.8% ซึ่งลดลงจากเดือนมีนาคมที่มีอัตราการขายได้ที่ 18.6% ต่อเดือน อสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ อันดับ 1.ทาวน์เฮ้าส์ที่มีราคาระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีจำนวน 110 หน่วย ขายได้แล้ว 25 หน่วย (23%) และอันดับ 2 บ้านเดี่ยวที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาทมีจำนวน 214 หน่วย ขายได้แล้ว 15 หน่วย (7%)

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles