ออสเตรเลียติดโควิด-19 เฉียด 1,370 มากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ยอดเสียชีวิตทะลุ 1,000 เป็นวันแรก

กระทรวงสาธารณสุข ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 1,368 ราย ทำสถิติติดมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดเป็นต้นมา ส่งผลจำนวนติดเชื้อสะสมเป็น 52,642 ราย ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 1,003 ราย ทำสถิติเป็นวันแรกที่มียอดเสียชีวิตสะสมแตะหลัก 1,000 ราย

สำหรับพื้นที่พบการระบาดมากที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา คือรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีเมืองซิดนีย์เป็นเมืองหลัก พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,290 ราย หรือ 94% ของยอดเชื้อรายใหม่ทั้งประเทศ โดยทำสถิติยอดติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ที่สำคัญยอดเสียชีวิตรายวันทั้ง 4 รายอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ด้วย

ด้านผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า ยอดติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 92 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดในรอบเฉียด 1 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2563 ซึ่งในวันนั้นมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 112 ราย ทำให้มีความจำเป็นต้องประกาศต่ออายุมาตรการปิดล็อกดาวน์ครั้งที่ 6 ออกไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์

ผู้ว่าการรัฐควีนสแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีพรมแดนติดกันกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า ยังคงใช้มาตรการปิดพรมแดนต่อไป ถึงแม้ว่าตามแผนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จะมีขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมีถึง 80% ตามเป้าหมายก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาวะการระบาดเพิ่มสูงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่รัฐบาลในรัฐดังกล่าวได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง เช่น อนุญาตให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถรวมตัวกันได้ไม่เกิน 5 คนในที่สาธารณะ ครอบครัวที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสซึ่งอยู่ในพื้นที่สถานที่ราชการ สามารถพบปะหรือรวมตัวกันสำหรับกิจกรรมการผ่อนคลายร่วมกันได้ เป็นต้น

ทั้งนี้ ออสเตรเลียฉีดวัคซีนครบโดสให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป มีสัดส่วน 33.7% คาดการณ์ว่าจากอัตราการฉีดวัคซีนในปัจจุบันจะทำให้ฉีดครอบคลุมถึง 80% ของประชากรทั้งประเทศภายในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้