อะเมสซิ่งไทยแลนด์! สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นนำเสนอไทยเป็น 1 ใน 5 ชาติ อยู่ร่วมโรคโควิด-19 เร่งเปิดประเทศแต่ฉีดวัคซีนครบโดสแค่ 18% ตามหลังเพื่อนบ้าน

437
0
Share:

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น CNN เสนอรายงานพิเศษเกี่ยวกับ 5 ประเทศที่ประกาศนโยบายให้ประชาชนอยู่รวมกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากต้องปิดล็อกดาวน์ประเทศมาเป็นเวลานานมาก ท่ามกลางความพยายามในการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ให้ครบโดสให้ถึงเป้าหมาย ซึ่ง 1 ใน 5 ประเทศนั้น สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นนำเสนอประเทศไทย โดยรายงานว่าท่ามกลางประเทศไทยมีความล่าช้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ให้กับประชาชน แต่รัฐบาลไทยภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับจะเปิดประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้

ประเทศไทยประกาศแผนจะเปิดเมืองหลวงกรุงเทพ และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนตุลาคมนี้ สาเหตุจากต้องการฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยท่ามกลางการติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังคงสูงกว่าวันละ 10,000 ราย

ซีเอ็นเอ็น รายงานต่อไปว่า อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของไทยยังคงตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน โดยประเทศไทยมีอัตราการฉีดอยู่ที่ 18% ของประชากรไทยที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดส โดยอ้างอิงยอดตัวเลขฉีดวัคซีนครบโดสเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 ของเว็บไซต์ ourworldindata.org ในขณะที่ การฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็มมีสัดส่วน 21% เท่านั้น

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานอีก 4 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก โดยรัฐบาลประกาศความมั่นใจในการอยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 สำหรับอัตราการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 13 กันยายน พบว่าชาวเดนมาร์กได้รับการวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดส มากกว่า 74% โดยอ้างอิงตัวเลขจากเว็บไซต์ ourworldindata.org

ต่อมาเป็นประเทศสิงคโปร์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ประกาศใช้นโยบายโรคโควิด-19 เป็นศูนย์มาตลอด แต่ในที่สุดต้องปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ในช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมา ด้วยการให้ประชาชนอยู่ร่วมโรคโควิด-19 และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสได้สูงถึง 81% ของเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละกว่า 800 รายติดต่อกันถึง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดติดเชื้อรายวันสูงสุดในรอบ 1 ปีกว่า

ประเทศแอฟริกาใต้เป็นอีก 1 ประเทศที่ซีเอ็นเอ็นนำเสนอ โดยประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา ประกาศให้ประชาชนชาวแอฟริกาใต้รีบออกไปรับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และกระตุ้นให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อจำกัดต่างๆเพื่อทำให้แอฟริกาใต้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติครั้งใหม่

ส่วนประเทศสุดท้าย คือชิลี ซีเอ็นเอ็นนำเสนอว่ากระทรวงสาธารณสุข ชิลี สามารถเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบ 2 โดสได้เกือบ 87% ของเป้าหมาย ท่ามกลางประเทศชิลีเผชิญประสบปัญหาจากการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชิลีกลับประกาศนโยบายเปิดประเทศให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นฤดูร้อนในทวีปอเมริกาใต้ที่ชาวต่างชาติมักจะเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเฉพาะใน 5 ประเทศที่สำนักงานซีเอ็นเอ็นนำเสนอนั้น จะพบชัดเจนว่า ประเทศไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสน้อยที่สุด ที่สำคัญยังไม่ถึง 20% หรือไม่ถึง 1 ใน 5 ของเป้าหมาย ในขณะที่ประเทศอื่นๆมีอัตราการฉีดครบโดสใกล้เป้าหมาย 70-80% ท่ามกลางความพยายามจะเปิดประเทศรับต่างชาติ