อินเดียขึ้นภาษีส่งออกข้าวสูงถึง 20% คาดราคาข้าวขาวตลาดโลกมีพุ่งกว่า 15%

รัฐบาลประเทศอินเดีย ประกาศขึ้นอัตราภาษีส่งออกข้าว 20% กับข้าวหลายประเภทที่ผลิตจากอินเดีย เพื่อหวังแก้ปัญหาราคาข้าวภายในประเทศที่มีราคาสูง ซึ่งกระทบกำลังซื้อของประชาชนในอินเดีย สำหรับประเภทข้าวที่ได้รับการยกเว้นการขึ้นภาษีในครั้งนี้ มี 2 ประเภท ได้แก่ ข้าวบาสมาติ และข้าวนึ่ง ในขณะที่ข้าวขาว และข้าวกล้อง ซึ่งคิดเป็น 60% ของการส่งออกข้าวทั้งหมดของอินเดีย จะถูกตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 20%

นายคริชนา ราโอ ประธานสภาผู้ส่งออกข้าวแห่งอินเดีย หรือ AIREA กล่าวว่า การประกาศขึ้นภาษี 20% กับการส่งออกข้าวของอินเดียของรัฐบาลอินเดีย ทำให้การส่งออกข้าวอินเดียไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลก ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะเปลี่ยนไปซื้อข้าวจากประเทศคู่แข่งสำคัญของอินเดีย ได้แก่ ไทย และเวียดนาม ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้ เผชิญปัญหาในการเพิ่มทั้งปริมาณ และราคาส่งออกข้าว

ราคาข้าวขาวในตลาดโลกปัจจุบันที่เคลื่อนไหวที่ระดับ 350 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือกว่า 12,950 บาทต่อตัน อาจมีราคาพุ่งขึ้นเหนือกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือกว่า 14,800 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นผลจากการขึ้นภาษีส่งออกข้าวจากอินเดีย

ปัจจุบัน อินเดียเป็นประเทศส่งออกข้าวมากกว่า 40% ของการส่งออกข้าวในตลาดโลก ท่ามกลางการแข่งขันกับ 4 ประเทศคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ปากีสถาน และเมียนมา มาตรการดังกล่าวจะทำให้อินเดียส่งออกข้าวลดลงถึง 25% ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้รัฐบาลอินเดียต้องประกาศใช้มาตรการภาษีส่งออกข้าว เป็นผลจากปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติในหลายรัฐสำคัญที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าว เช่น ตะวันตกของรัฐเบงกอล รัฐอุตระประเทศ รัฐพิหาร ส่งผลต่อปริมาณการผลิตข้าวของอินเดียตกต่ำลงราว 5.6% ในฤดูการผลิตนี้

ทั้งนี้ ในปี 2564 อินเดียส่งออกข้าวมากถึง 21.5 ล้านตัน ทำสถิติส่งออกข้าวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมากกว่าปริมาณส่งออกข้าวจากทั้ง 4 ประเทศรวมกัน ได้แก่ ไทย เวียดนาม ปากีสถาน และสหรัฐอเมริกา อินเดียส่งออกข้าวไปในตลาดโลกมากกว่า 150 ประเทศ เมื่อประกาศขึ้นภาษีส่งออกข้าว อาจจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศที่ต้องพึ่งพาการสั่งซื้อข้าว โดยเฉพาะเมล็ดข้าว ซึ่งอินเดียเคยใช้มาตรการห้ามส่งออกในปี 2007 ทำให้ราคาอาหารโลกพุ่งสูงขึ้น