อินโดนีเซียเปิดวีซ่าทองให้นักลงทุนต่างชาติ ลงทุนในประเทศ เข้าเกณฑ์ให้อยู่นาน 5-10 ปี

159
0
Share:
อินโดนีเซีย เปิด วีซ่าทอง ให้นักลงทุนต่างชาติ ลงทุนในประเทศ เข้าเกณฑ์ให้อยู่นาน 5-10 ปี

อธิบดีสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อินโดนีเซีย นายซิลมี คาริม เปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะดำเนินการออกวีซ่าประเภทนักลงทุนต่างประเทศให้สามารถพำนักอาศัยภายในประเทศอินโดนีเซียในระยะยาว เรียกว่า วีซ่าทอง หรือ Golden Visa เพื่อเป้าหมายในการเชิญชวน หรือดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจอินโดนีเซียในระยะยาว

สำหรับนักลงทุนต่างประเทศที่เข้าข่ายจะได้รับการออกวีซ่าทอง ประกอบด้วย 2 ประเภท โดยประเภทแรก ได้แก่ นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในกองทุนการลงทุนมูลค่า 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 12.25 ล้านบาท ด้วยการซื้อหุ้นของบริษัทมหาชนสัญชาติอินโดนีเซีย ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีฝากประจำในอินโดนีเซีย หรือซื้อลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซีย จะได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยในประเทศนาน 5 ปี ส่วนประเภทที่สอง ได้แก่ นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในกองทุนการลงทุนมูลค่า 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 24.5 ล้านบาทบนเงื่อนไขการลงทุนเดียวกันกับประเภทแรก จะได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยในประเทศนานขึ้นเป็น 10 ปี

นอกจากนี้ วีซ่าพำนักอาศัยในอินโดนีเซียมีอายุ 5 ปี จะอนุมัติให้กับนักลงทุนส่วนบุคคลที่จดทะเบียนตั้งบริษัทในประเทศด้วยมูลค่าอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรืออย่างน้อยกว่า 87.5 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน หากนักลงทุนส่วนบุคคลที่จดทะเบียนตั้งบริษัทในประเทศด้วยมูลค่าอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรืออย่างน้อยกว่า 175 ล้านบาท จะได้รับการอนุมัติวีซ่าพำนักอาศัยในอินโดนีเซียมีอายุ 10 ปี

สำหรับกรรมการบริษัท และกรรมาธิการ หรือกรรมการที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทซึ่งจดทะเบียนตั้งบริษัทในอินโดนีเซีย และมีเงินลงทุน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 875 ล้านบาท จะได้รับการอนุมัติวีซ่าพำนักอาศัยในอินโดนีเซียมีอายุ 5 ปี และจะอนุมัติวีซ่าพำนักอาศัยในอินโดนีเซียมีอายุ 10 ปี เมื่อบริษัทมีเงินลงทุน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,750 ล้านบาท

อธิบดีสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อินโดนีเซีย นายซิลมี คาริม ให้เหตุผลว่า อินโดนีเซียตัองการนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีคุณภาพมาช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอินโดนีเซียที่มีขนาดใหญ่อันดับ 1 ในอาเซียน ให้สามารถขยายตัวในระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เมื่อปีผ่านมา รัฐบาลอินโดนีเซียเคยประกาศนโยบายดึงดูดช่าวต่างประเทศด้วยการอนุมัติวีซ่าบ้านหลังที่สองให้กับนักท่องเที่ยวที่มีฐานะร่ำรวยที่ฝากเงินในบัญชีในประเทศอินโดนีเซียมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านรูเปี๊ยะ หรือตั้งแต่ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.5 ล้านบาทขึ้นไป