อึ้งไปเลย! “ผู้ผลิตวัคซีนที่รัสเซียเคยติดต่อรัฐบาลไทยมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ
นายมารุต บูรณะเศรษฐกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 สปุตนิก วี จากรัสเซีย เปิดเผยว่าได้ยื่นเอกสารกับทางอย.ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ และมีการยื่นเอกสารครั้งที่ 2 ให้กับอย. เนื่องจากการยื่นเอกสารมีความยากลำบาก เพราะมาตรฐานของรัสเซียมีความแตกต่างจากมาตรการไทย ดังนั้น เอกสารทุกอย่างอยู่ที่อย.ไทยเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากการพิจารณาและตรวจสอบเอกสารแล้ว จะอนุมัติภายใน 30 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับอย.ว่าจะนับวันที่ 1-30 วันไหน เพราะบริษัทส่งเอกสารทุกอย่างครบหมดแล้ว
หากประเมินระยะเวลาจากนี้ไป ซึ่งอย.ยังไม่มีการอนุมัติให้วัคซีนสปุตนิก วี ผ่านภายในวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้จากเดิมที่จะสามารถจัดส่งวัคซีนดังกล่าวภายในเดือนพฤษภาคมนี้จำนวน 1 ล้านโดส กลายเป็นว่าต้องเลื่อนออกไป และบริษัทวางแผนไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีวัคซีนสปุตนิก วี รวมทั้งหมดประมาณ 20 ล้านโดส
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คินเจน ไบโอเทค กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยตั้งใจให้วัคซีน สปุตนิก วี ที่นำเข้ามาเพื่อให้บริการกับประชาชน ไม่จำเป็นต้องเสียเงิน เนื่องจากถือว่าเป็นวัคซีนทางเลือก โดยผู้ซื้อคือภาครัฐ สำหรับราคาต้นทุนประมาณ 1,000 บาท ต้นทุนนึ้ยังไม่รวมค่าบริการ ค่าขนส่ง ค่าวิชาชีพแพทย์และพยาบาล
ทั้งนี้ ปัจจุบัน วัคซีน สปุตนิก วี มีใช้แล้วถึง 64 ประเทศ โดยกลุ่มอายุที่สามารถฉีดได้จะอยู่ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป และเกิน 60 ปีได้ ผลจากการฉีดให้้กับผู้ติดเชื้อจริงมาแล้ว ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มตัวอย่าง พบว่าวัคซีนสปุตนิก วี มีประสิทธิภาพสูงถึง 97.6% ส่วนเรื่องของผลข้างเคียงนั้น มีแต่น้อยมาก เช่น อาการปวดหัว มีไข้ และผื่นขึ้น เหมือนกับการได้รับวัคซีนทั่วๆ ไป
นายมารุต บูรณะเศรษฐกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่าประเทศอินเดียและเกาหลีใต้ได้นำเข้าวัคซีน สปุตนิก วี แล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ทั้ง 2 ประเทศนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการขึ้นทะเบียนทางการแพทย์และยาที่ยากที่สุดในโลก แต่ปัจจุบัน ทั้ง 2 ประเทศได้อนุมัติวัคซีน สปุตนิก วี เรียบร้อย
ทั้งนี้ ซีอีโอบริษัทคินเจน ไบโอเทค จำกัด กล่าวถึงกรณีที่ทำไมรัสเซียถึงได้ติดต่อมาทางบริษัทของตนเอง โดยกล่าวว่าผู้ผลิตวัคซีนที่รัสเซียเคยติดต่อรัฐบาลไทยมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้ ผู้ผลิตวัคซีนย่อมต้องการอยากขายวัคซีน ถ้าช่องทางไหนไปได้เร็ว เขาก็ไปติดต่อช่องทางนั้น และทางบริษัทเองก็มีความรู้พื้นฐานเทคโนโลยีในแง่ของการผลิต และมีใบอนุญาตในการนำเข้าสินค้าชีวเภสัชภัณฑ์อยู่แล้ว จึงสามารถติดต่อกันได้
