เขียวคึกคัก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งแรงกว่า 220 จุด ผลประกอบการบริษัทออกมาดีกว่าคาด

151
0
Share:
เขียวคึกคัก! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งแรงกว่า 220 จุด ผลประกอบการบริษัทออกมาดีกว่าคาด

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,274 จุด +221 จุด หรือ +0.67% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,237 จุด +44 จุด หรือ +1.05% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,061 จุด +210 จุด หรือ +1.64%

ในเดือนตุลาคม ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -1.4%, -2.2% และ -2.8% ตามลำดับ ทำให้ดัชนีหุ้นทั้งดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติดัชนีหุ้นรายเดือนปิดลดลงครั้งแรกใน 3 เดือนผ่านมา เกิดขึ้นในรอบ 3 ปี 7 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมปี 2020

ขณะที่ส่งผลเมื่อวานนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติปิดพุ่งมากสุดใน 1 วันในรอบ 4 เดือนหรือนับตั้งแต่มิถุนายนผ่านมา และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ฟื้นผ่านภาวะปรับฐานสมบูรณ์แบบออกมาได้ ขณะที่เมื่อวันศุกร์ผ่านไป ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ไม่เพียงปิดหลุดระดับ 4,200 จุด เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนกว่า หรือตั้งแต่พฤษภาคมผ่านมา แต่ยังเข้าสู่ภาวะปรับฐาน หรือ Correction เนื่องจากดำดิ่งถึง -10.3% เทียบกับสถิติปิดสูงสุดในรอบปีนี้เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักกับผลประกอบการของบริษัทที่ออกมาดีกว่าคาดไว้ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหรือเฟด ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ในคืนผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่มีราคาถูกมากเกินปัจจัยพื้นฐานโดยเฉพาะหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ประเภทบลูชิปที่ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ดำดิ่งเข้าภาวะปรับฐาน หรือ Correction ไปเมื่อวันศุกร์ผ่านมา ในขณะเดียวกัน นักลงทุนประเมินการตัดสินใจของเฟดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจนถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงการรอประกาศผลประกอบการของแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น ในช่วงกลางสัปดาห์นี้

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 70% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 50%