เขียวยกแผง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นกว่า 20 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุดต่ำกว่า 87 ดอลลาร์

152
0
Share:
เขียวยกแผง! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดขึ้นกว่า 20 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุดต่ำกว่า 87 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 35,307 จุด +26 จุด หรือ +0.07% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,489 จุด +25 จุด หรือ +0.58% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,788 จุด +143 จุด หรือ +1.05%

สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากหุ้นในกลุ่มดังกล่าวมีราคาตกต่ำอย่างมากในปลายสัปดาห์ผ่านไป นอกจากนี้ ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับมุมมองหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในทางบวก

นักลงทุนยังคงติดตามแนวโน้มสูงในการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่จะมีการประชุมในเดือนหน้า ขณะที่ตัวชี้วัดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอีเฟดวอทช์ ทูล พบว่า มีโอกาส 86.5% ที่เฟดจะตรึงดอกเบี้ยดังกล่าวในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 82.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.82%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.69%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ฟื้นตัว และซบเซา ซึ่งผิดความคาดหมายจากการกลับมาเปิดประเทศเมื่อธันวาคมปี 2022 เป็นต้นมา กระทบต่อปริมาณการบริโภคน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตในเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้

ตลาดคาดการณ์ยังคงคาดการณ์ว่าภาวะสต๊อกน้ำมันดิบโลกยังตึงตัวต่อเนื่องท่ามกลางรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบ สอดคล้องกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังนี้ ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะตึงตัว สาเหตุจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,907.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -5.52 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.3% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,944 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -1.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.01%

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับเพิ่มสูงขึ้น ทำสถิติรายสัปดาห์ขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาเดือนกรกฎาคมในกลางสัปดาห์ผ่านไป พบว่าแรงกดดันต่อการตัดสินใจทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐอเมริกาผ่อนคลายลง

นักลงทุนให้น้ำหนักสัญญาณและแรงกดดันต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนกันยายน โดยเฉพาะการคาดการณ์ว่ารอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะเกิดขึ้นหรือไม่ และเร็วที่สุดเมื่อไร

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 86.5%