เขียวส่งท้าย! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 84 ดอลล์

176
0
Share:
เขียวส่งท้าย! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งกว่า 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 84 ดอลล์

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,302 จุด +112 จุด หรือ +0.33% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,999 จุด +15 จุด หรือ +0.40% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,079 จุด +78 จุด หรือ +0.71% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับเพิ่มขึ้น +2.0%, +2.67% และ +4.82% ส่งผลให้กลายเป็นดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ต่อเนื่อง และเป็นสัปดาห์ดีที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2022 เป็นต้นมา

สาเหตุจากผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มสายการบินที่ออกมาดีตามคาดไว้ นอกจากนี้ ปัจจัยบวกต่อเนื่องของตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2022 ของสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้พอดี และยังเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อจากเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 7.1% นักลงทุนจึงมีความมั่นใจขึ้นมาว่า สัญญาณการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเพียง 0.25% ขณะที่ ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอยู่ที่ระหว่าง 4.25%-4.50% ซึ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.9% ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 6 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5% ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ธันวาคม 2022

ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งปิดเพิ่มสูงขึ้นถึง +8.4% และ +8.6% ตามลำดับ ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันดิบตลาดโลกรายสัปดาห์ที่สูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2022 ผ่านมา

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบสกุลเงินสำคัญทั่วไป ร่วงลงอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินยูโรดำดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน นอกจากนี้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐลดลง ซึ่งอาจลดแรงกดดันของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

นอกจากนี้ การเปิดประเทศของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะกลับมามีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการจับตาประเมินความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด-19 ของจีนที่จะมีต่อต่างประเทศหรือไม่

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,921.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +22.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +1.2% ทำสถิติราคาทองคำสูงสุดในรอบ 9 เดือน หรือนับตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายน ปี 2022 ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ระดับ 1,920.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ร่วงอ่อนค่าทำสถิติแย่ที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ผ่านมา ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปี 10 ปี และ 30 ปี ลดลงเช่นกัน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาเดือนธันวาคมลดต่ำลงตามที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟดฟันด์ พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มสูงถึง 90% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้