เข้าเป้านะ! รัฐมนตรีท่องเที่ยวยันภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เข้าเป้า ทั้งปี 64 ต่างชาติมาไทย 3 ล้านคน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ที่จำนวน 3-4 ล้านคนในปีนี้ เมื่อพูดถึงโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ส่วนตัวประเมินว่าภูเก็ตแซนด์บอกซ์ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปี 2563 ที่ผ่านมา ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพียงประมาณ 10,000 คน จากโครงการ STV ยิ่งถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ในช่วง 13 วันแรก ระหว่างวันที่ 1-13 กรกฎาคม 2564 มีจำนวนรวม 5,174 คน หรือครึ่งหนึ่งของปีที่ผ่านมา และคิดเป็นมูลค่ารายได้ที่ราว 460-500 ล้านบาท เป็นไปได้ที่ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมเกือบ 20,000 คน ที่สำคัญ มั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 คน ในเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้ โดยเชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาภูเก็ตช่วง 3 เดือนแรกของโครงการ หรือในไตรมาส 3 นี้มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100,000 คนตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้าไว้ และจะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป
สำหรับโครงการสมุยพลัสนั้น โดยรวมแล้วยังมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมาต่อเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้าสมุย รวมถึงเงื่อนไขที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวที่มานั้นต้องอยู่ในบริเวณโรงแรมในช่วง 3 วันแรก และใน 7 วันแรกต้องอยู่ในเส้นทางซีลรูตของสมุย จากนั้นถึงจะสามารถเดินทางทั่วบริเวณเกาะสมุย และต่อไปยังเกาะพะงันและเกาะเต่าได้ ตั้งแต่วันที่ 8 เป็นต้นไป
ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นนี้คงยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่มากนัก โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนแรก (15 กรกฎาคม-15 ตุลาคม) น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 20,000-25,000 คน หรือราว 20-25% ของภูเก็ตแซนด์บอกซ์ นอกจากภูเก็ตและสมุยแล้ว ขณะเดียวกัน กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬายังเตรียมพร้อมสำหรับเปิดพื้นที่เกาะพีพี ไร่เลย์ เกาะไหง จังหวัดกระบี่ และพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ซึ่งตามแผนจะเปิดดำเนินการในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จะเข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้พิจารณาการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบที่เรียกว่า Island hopping โดยให้อยู่ในภูเก็ต 7 วัน ส่วนอีก 7 วันหลังให้มีเส้นทางซีลรูตไปยังพื้นที่เกาะอื่น ๆ ได้ เช่น เกาะพีพี ไร่เลย์ เขาหลัก หรือสมุย ฯลฯ ได้ด้วย จากเดิมที่กำหนดให้ต้องอยู่ภูเก็ต 14 วันก่อน หากการเจรจาสำเร็จ คาดว่าน่าจะเริ่มใช้การท่องเที่ยวในรูปแบบ Island hopping นี้ได้ในวันที่ 1 สิงหาคม พร้อมกับการเปิดพื้นที่กระบี่ และพังงา
