เคอรี่ เอ็กซ์เพรสขาดทุนอ่วมกว่า 1,000 ล้านบาท รวมครึ่งปีแรกขาดทุนเฉียดกว่า 2,000 ล้าน

309
0
Share:
เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ขาดทุน อ่วมกว่า 1,000 ล้านบาท รวมครึ่งปีแรกขาดทุนเฉียดกว่า 2,000 ล้าน

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปีนี้ พบว่า มีรายได้อยู่ที่ 2,923.3 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนขายและการให้บริการมีสูงถึง 3,814.8 ล้านบาท ส่งผลมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิเป็น 1,047.7 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมผลประกอบการตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา หรือในช่วงครึ่งปีแรกนี้ บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขาดทุนสุทธิรวม 1,835.22 ล้านบาท หรือเฉลี่ยขาดทุนเดือนละกว่า 306 ล้านบาท

ด้านรายได้ บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลงถึง -6.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากการปรับตัวลดลงของปริมาณการจัดส่งพัสดุของผู้ใช้บริการประเภท B2B และ B2C เช่นเดียวกับการปรับตัวลดลงเล็กน้อยของรายได้เฉลี่ยจากการส่งพัสดุต่อหน่วยระหว่างไตรมาส 2 ของปีผ่านมา

ขณะที่ต้นทุนขายและการให้บริการในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 2.4% จากไตรมาสก่อนหน้า แม้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับราคานํ้ามันดีเซลมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างรถขนส่งภายนอก และค่าคอมมิชชั่นเพิ่มสูงขึ้นจากการขาดแคลนพนักงาน ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นฟูของธุรกิจภาคท่องเที่ยวและการให้บริการ

สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นรายได้หลักของบริษัทในไตรมาสนี้ ยังคงเป็นกลุ่ม B2C หรือกลุ่มลูกค้าองค์กรไปยังลูกค้าขั้นสุดท้าย แต่มีสัดส่วนลดลงเล็กน้อยจากเดิม 55% ในไตรมาส 1 ปีนี้มาเป็น 52% ในไตรมาส 2 ขณะที่กลุ่ม C2C หรือกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคขั้นสุดท้ายระหว่างกัน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากเดิม 42% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ มาเป็น 45% ในไตรมาสที่ 2

สำหรับช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ปริมาณการจัดส่งพัสดุของบริษัทลดลง 3% จากไตรมาสแรกของปี 2566 เป็นผลมาจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของความต้องการจากการทำธุรกิจธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ

บริษัทคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ปริมาณการจัดส่งพัสดุจะฟื้นฟูกลับมาจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งมีการแก้ไขตัวเลขประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้จากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เติบโต 3.2% เป็น 3.7%

ทั้งนี้ บริษัทฯ เปิดเผยว่า ตั้งเป้าจะกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานรายเดือนภายในปี 2567 โดยจะมุ่งเน้นการดําเนินกลยุทธ์การตลาดตามกลุ่มผู้ใช้บริการ (Market Segmentation) หรือการจัดกลุ่มผู้ใช้บริการเพื่อเสนอการบริการที่เหมาะสม โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดระดับกลางถึงบน ที่ให้ราคาและผลตอบแทนในระดับสูง