เทศกาลเจปี 66 ในไทย มีเงินหมุนกว่า 3,100 ล้านบาทใน 9 วันชี้ราคาวัตถุดิบขยับสูงขึ้น

408
0
Share:
เทศกาลกินเจ ปี 66 ในไทย มีเงินหมุนกว่า 3,100 ล้านบาทใน 9 วันชี้ราคาวัตถุดิบขยับสูงขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เทศกาลกินเจปี 2566 จะเริ่มขึ้นวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 รวมเป็นเวลา 9 วันในปีนี้ราคาอาหารเจน่าจะยังคงปรับสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตอาหารเจหลายรายการมีแนวโน้มจะขยับขึ้นจากช่วงเทศกาลกินเจปีก่อน ได้แก่ ผักบางชนิด (อาทิ คะน้า ฟักทอง เต้าหู้) และข้าวจากสภาพอากาศแปรปรวนฝนตกหนักและน้ำท่วมในบางพื้นที่ซึ่งกระทบกับปริมาณผลผลิตนอกจากนี้กลุ่มโปรตีนเกษตรก็น่าจะปรับขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มในช่วงกินเจรวมถึงราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง

ขณะที่ล่าสุดเดือน ก.. 2566 ภาพรวมเงินเฟ้อหมวดอาหารที่บริโภคในบ้านที่เติบโต 1.5% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา และหมวดอาหารที่บริโภคนอกบ้านที่เติบโต 1.1% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าทิศทางราคาอาหารเจทั้งที่บริโภคในบ้านและร้านอาหารก็น่าจะปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันเมื่อเทียบกับปีก่อนโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจขณะที่จำนวนคนกินเจในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากความนิยมอาหารเพื่อสุขภาพและการกลับมาใช้ชีวิตปกติ

อย่างไรก็ดีด้วยทิศทางราคาอาหารเจที่มีอาจปรับสูงขึ้นประกอบกับความกังวลต่อค่าครองชีพที่สูงและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่แม้ว่าภาครัฐจะออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพบางส่วนอาทิมหกรรมลดราคาแต่ผู้บริโภคยังกังวลกับภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมถึงรายได้ในอนาคตสะท้อนจากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่าคนกรุงเทพฯที่วางแผนจะกินเจพยายามปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อควบคุมงบประมาณการใช้จ่ายตลอดเทศกาลโดยการลดวันกินเจลงรวมถึงเลือกใช้บริการช่องทางการจำหน่ายที่ราคาไม่สูงอาทิร้านอาหารตักขายข้างทางและนั่งทานในร้าน

ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า เม็ดเงินค่าใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลกินเจปี 2566 น่าจะอยู่ที่ 3,100 ล้านบาท หรือขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นผลมาจากระดับราคาอาหารเจที่อาจปรับขึ้นราว 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ปริมาณการบริโภคอาหารเจโดยรวมน่าจะเติบโตเล็กน้อยหรือราว 1.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน

มองไปข้างหน้า ด้วยคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังคงไม่สนใจบริโภคอาหารเจ ถือเป็นความท้าทายต่อทิศทางการเติบโตของธุรกิจอาหารเจ ดังนั้น โจทย์สำคัญคงอยู่ที่แนวทางในการกระตุ้นยอดขายและฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นแม้อยู่นอกเทศกาลกินเจ โดยเฉพาะการชูจุดขายความคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับอาหารทั่วไป รวมถึงพัฒนาความพิเศษให้กับเมนูอาหารเพื่อสร้างประสบการณ์การบริโภคที่ดีและนำไปสู่การกลับมาซื้อซ้ำ อาทิ ใช้วัตถุดิบพรีเมียมที่มีคุณค่าทางอาหารสูง (โปรตีนทางเลือก ซุปเปอร์ฟู้ด) พัฒนาเมนูแปลกใหม่ที่แตกต่างกว่าอาหารเจเดิมๆ ที่มีจำหน่ายในตลาด รวมถึงการจัดโปรโมชั่นหรือส่วนลดให้กับอาหารเจทั้งในและนอกเทศกาลกินเจ