เงินบาทร่วงหนักรอบ 2 เดือน แตะกว่า 33.50 บาท รับสธ.ยกคำเตือนโควิดเป็นระดับ 4
ค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ร่วงอ่อนค่าลึกถึง 33.523 บาท หรือดิ่งลงเกือบ 1% ทำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน หรือนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา
สาเหตุจากนักลงทุนขาดความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจไทยที่จะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 หลังจากในช่วงเช้าวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขไทยประกาศปรับเพิ่มระดับคำเตือนภาวะการระบาดเป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับรองจากสูงสุด
ในช่วง 12 เดือนผ่านมา พบว่า ค่าเงินบาทเป็นสกุลเงินที่มีผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในสกุลเงินตลาดเอเชียเกิดใหม่ สาเหตุจากลดต่ำลงถึง 10% เป็นผลจากเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเนื่อง นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงกดดันอย่างมากจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะเริ่มต้นในปีนี้
นายฟิลลิป แมคนิโคลัส นักกลยุทธ์สายงานอัตราแลกเปลี่ยน บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ สิงคโปร์ กล่าวว่า การปรับเพิ่มระดับเตือนการระบาดเป็นระดับ 4 ในไทย ฉุดความคาดหวังในการที่จะเห็นการฟื้นตัว และการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบของไทย ทั้งหมดสร้างแรงกดดันต่อเงินบาทอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายเจฟฟ์ งึ นักวิเคราะห์อาวุโส สายงานอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารเอ็มยูเอฟจี ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะร่วงอ่อนค่าลงไปแตะถึง 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม จะกลับแข็งค่ามาเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.75 บาทในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2565
