เงินหยวนดำดิ่งในรอบ 14 ปี ทะลุ 7.2 ต่อดอลลาร์ ส่ออ่อนค่ารายปีในรอบเกือบ 30 ปี

251
0
Share:
เงินหยวน ดำดิ่งในรอบ 14 ปี ทะลุ 7.2 ต่อดอลลาร์ ส่ออ่อนค่ารายปีในรอบเกือบ 30 ปี

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศในเอเชีย รายงานว่า ค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐในเดือนผ่านมาร่วงตกต่ำมาที่ระดับ 7.2 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ตกต่ำถึง 4% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 หรือตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นต้นมา ส่งผลให้ในขณะนี้ค่าเงินหยวนดำดิ่งมากถึง 11% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ กำลังทำสถิติร่วงอ่อนค่ารายปีมากที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เชื่อมค่าเงินหยวนในประเทศเข้ากับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐลดค่าลงอย่างรุนแรงถึง 30%

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ทำสถิติร่วงอ่อนค่ายาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ตุลาคม ปี 2018 เป็นต้นมา ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ภาวะเงินหยวนร่วงอ่อนค่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง และกลายเป็นปัจจัยคุกคามต่อสกุลเงินของประเทศที่ทำการค่ากับจีน เช่น เอเชีย อาเซียน และแอฟริกา

สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ชะลอตัวอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารชั้นนำระดับโลกหลายแห่งล้วนปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้มาเหลือเพียง 3.5% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 40 ปี ภาวะหนี้เสียอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่พุ่งสูง ธนาคราพาณิชย์ 2 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศภาวะล้มละลายจากมูลค่าหนี้เสียที่ปล่อยกู้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นโยบายไม่อยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ที่กระทบต่อภาคธุรกิจทั้งสัญชาติจีน และต่างชาติ ทำให้เกิดแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ของอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก รวมถึงภาวะภูมิอากาศแปรปรวน เช่น ภัยแล้งที่พึ่งเกิดขึ้นในรอบกว่า 150 ปี กระทบการใช้พลังงานไฟฟ้ากับโรงงานอุตสาหกรรมในจีนแผ่นดินใหญ่

ธนาคารอิมพีเรียล แบงค์ ออฟ คอมเมิร์ส ประเทศแคนาดา เปิดเผยค่าเงินหยวนยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง และถูกคาดการณ์ว่าจะร่วงไปแตะระดับที่ 7.3 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงระยะสั้นนี้