เงื่อนไขสำคัญ! ญี่ปุ่นสั่งห้ามใช้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในทางทหาร ในข้อตกลงบริจาค 1.05 ล้านโดสให้ไทย

623
0
Share:

เมื่อวานนี้ 29 มิถุนายน 2564 กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย จัดการลงนามร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่นในหนังสือการบริจาควัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลญี่ปุ่นให้ประเ ทศไทย เพื่อรับมอบการบริจาควัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซเนก้าจากรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นจำนวน 1.05 ล้านโดส

สำหรับการลงนามของร่างหนังสือบริจาคในครั้งนี้ มีการระบุให้รัฐบาลไทยจะต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็น ดังต่อไปนี้
• 1.นำวัคซีนโควิด-19 ไปใช้อย่างเหมาะสมและเป็นการเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านสาธารณสุขและการแพทย์ของไทย โดยห้ามใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการทหาร
• 2.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ยกเว้นรัฐบาลของทั้งสองประเทศจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ ซึ่งครั้งนี้ ไทยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งจากญี่ปุ่น ประมาณ 10- 99 ล้านเยน หรือ 2.9 – 28.7 ล้านบาท โดยกระทรวงสาธารณสุข มีงบประมาณรองรับส่วนนี้ไว้แล้ว
• 3.เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 เมื่อได้รับการร้องขอ
• 4.ไม่ส่งต่อวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคคล หน่วยงาน รัฐบาลอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นการล่วงหน้า
• 5.รายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ ข้อกำหนด และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนจะจัดทำโดยหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐบาลญี่ปุ่น คือ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ และหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐบาลไทย คือกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ยี่ห้อแอสตร้าเซเกน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะส่งมอบให้รัฐบาลไทย มี 2 ชนิด ได้แก่ ผลิตโดยหัวเชื้อยาจากโรงงานบริษัท คาทาเลนท์ Catalent จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัท เคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ KM Biologics Co., Ltd. ของประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ผสมและบรรจุวัคซีนลงในหลอด ถัดมาผลิตโดยหัวเชื้อยาจากโรงงานบริษัท คาทาเลนท์ Catalent ของสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท ไดอิชิ แซงเคียว Daiichi Sankyo Co., Ltd. ของประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ผสมและบรรจุวัคซีนลงในหลอด