เดนมาร์กเผยโอไมครอนกลายพันธุ์ BA.2 ติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 33%

342
0
Share:
เดนมาร์ก

สถาบันเซรุ่มสเตเทน (SSI) มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน สำนักสถิติเดนมาร์ก และมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดนมาร์ก ได้ร่วมวิเคราะห์อัตราการติดเชื้อในประเทศเดนมาร์ก หลังพบว่าเชื้อโอไมครอนลายพันธุ์ BA.2 มีสัดส่วนการระบาดในเดนมาร์กเกินกว่า 80% ในประเทศเเล้ว  ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า โอไมครอนสายพันธุ์ BA.2 สามารถติดต่อกันได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ทั่วไป BA.1 และสามารถแพร่เชื้อในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ได้ดีมากกว่า

ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาจากผู้ติดเชื้อในครัวเรือนเดนมาร์กมากกว่า 8,500 ครัวเรือน โดยดูว่าในบ้านที่มีผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.1 หรือ BA.2 ภายใน 7 วันต่อมา ทำให้เกิดผู้ติดเชื้อรายอื่นในบ้านกี่ราย และมีผู้ไม่ติดกี่ราย ได้พบมีความใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่ม ในกลุ่มผู้ติดเชื้อปฐมภูมิ BA.2 จำนวน 2,122 ครัวเรือน จากผู้ที่อาศัยร่วมบ้าน 4,587 ราย ภายใน 7 วัน มีผู้ติดเชื้อทุติยภูมิเกิดขึ้น 1,792 ราย คิดเป็น 39%

สำหรับในกลุ่ม BA.1 จำนวน 6,419 ครัวเรือน มีผู้อาศัยร่วมบ้านรวม 13,358 ราย มีผู้ติดเชื้อทุติยภูมิ 3,910 ราย หรือเท่ากับ 29% โดยเมื่อนำสองกลุ่มมาเทียบกันแล้ว พบว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอนกลายพันธุ์ BA.2 มีโอกาสแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นมากกว่า BA.1 อยู่ที่ประมาณ 33%

ทางด้านเฟรเดริก เพลสเนอร์ หนึ่งในทีมวิจัย เผยว่าสามารถสรุปได้ว่าโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 สามารถแพร่เชื้อได้ดีกว่า BA.1 และยังมีคุณสมบัติในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ถ้าสัมผัสเชื้อ BA.2 จากคนในครอบครัวจะมีโอกาสติดเชื้อภายใน 7 วัน 39% แต่ถ้าสัมผัสเชื้อ BA.1 จะอยู่ที่ 29%

ทั้งนี้ผลวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 มีอัตราการแพร่เชื้อที่สูงกว่าสายพันธุ์ BA.1 ในทุกกลุ่มที่ศึกษา และขณะนี้การศึกษานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบซ้ำ และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วมีความเสี่ยงต่ำที่สุดที่จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อทุติยภูมิ ตามด้วยผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 โดส และที่เสี่ยงสูงสุดคือกลุ่มที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งสายพันธุ์ BA.2 ได้ทำให้ผลของการป้องกันจากวัคซีนน้อยลงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม เนื่องจากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า โอไมครอน BA.2 มีความสามารถค่อนข้างดีกว่า BA.1 ในการแพร่เชื้อในคนที่ได้รับวัคซีนและฉีดเข็มกระตุ้น ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่ามีคุณสมบัติการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันมากขึ้น