เดือน ก.ย. ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ส่งแรงผันผวนต่อเนื่อง

388
0
Share:
เดือน ก.ย. ตลาดหุ้นไทย ยังได้รับปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ส่งแรงผันผวนต่อเนื่อง

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่าทิศทางการลงทุนเดือนกันยายน 2565 ตลาดจะยังแกว่งตัวผันผวน โดยมองกรอบแนวต้านแรกที่ 1,650 จุดและกรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,690 จุด ขณะที่แนวรับประเมินว่าจะอยู่ที่บริเวณ 1,570 จุด ในเชิงกลยุทธ์ มองจุดการเข้าเพิ่มน้ำหนักที่เริ่มปลอดภัยจะอยู่ที่บริเวณดัชนี 1,600-1,610 จุดหรือต่ำกว่า

โดยยังมองตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวผันผวนต่อในเดือนนี้ เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่รออยู่ เช่น การยกระดับการลดขนาดงบดุลของ Fed จากเดิม 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานในวันที่ 2 ก.ย.ตัวเลขเงินเฟ้อในวันที่ 13 ก.ย. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)ในวันที่ 8 ก.ย. และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 20-21 ก.ย.

ส่วนปัจจัยภายในของไทยที่น่าติดตาม ได้แก่ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อในวันที่ 5 ก.ย. การประชุมกนง.ในวันที่ 28 ก.ยและความเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ได้แนะนำ 4 ธีมหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่
1.กลุ่มหุ้น Domestic play ที่ราคายังคง Laggard เช่น ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) และกลุ่มสื่อฯ (BEC, ONEE, PLANB)

2.กลุ่มสื่อสารที่ราคาหุ้นปรับลงจน Valuation อยู่ในระดับน่าสนใจ (ADVANC, DTAC, TRUE)

3.กลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง-เล็กที่ได้ประโยชน์จากนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (CHG, PRINC, RJH)

และ 4. กลุ่มหุ้นส่งออกอาหาร-เกษตรที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และเห็นยอดการส่งออกเติบโตต่อเนื่อง (ASIAN, TU, GFPT, TFG)