เตะฝุ่นพรึบ! ปลดพนักงานแบงก์กว่า 35,000 คนเป็นประวัติการณ์

นายเซอร์จิโอ เออร์มอตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ที่จะเข้าบริหารธนาคารยูบีเอส กล่าวว่า สรุปจำนวนพนักงานที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างยูบีเอส เอจี กับเครดิต สวิส ที่จะต้องถูกปลดออกมีทั้งสิ้น 35,000 คน หรือ 30% จากจำนวนพนักงานรวมกันทั้งหมด ในปัจจุบันธนาคารเครดิต สวิส ซึ่งเป็นธนาคารที่ถูกควบรวมนั้นมีพนักงานมากถึง 45,000 คน สำหรับพนักงานที่เข้าข่ายถูกปลดออกครั้งใหญ่นี้ ธนาคารยูบีเอสจะเริ่มแจ้งให้พนักงานทราบและมีผลภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารยูบีเอส (UBS) เอจี ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ได้ทำการควบรวมกิจการธนาคารเครดิต สวิสเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้วด้วยมูลค่าธุรกรรมการซื้อควบรวมกิจการสูงถึง 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 112,000 ล้านบาท ส่งผลให้กลายเป็นธุรกรรมการควบรวมกิจการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา

การเสร็จสิ้นภาระกิจในการควบรวมธนาคารเครดิต สวิส ซึ่งเคยเป็นธนาคารคู่แข่งสำคัญที่สุดของธนาคารยูบีเอส ส่งผลให้งบดุลบัญชีของธนาคารยูบีเอสเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 56 ล้านล้านบาท และมีจำนวนพนักงานเพิ่มเป็น 120,000 คน ที่สำคัญ ส่งผลให้ธนาคารยูบีเอสกลายเป็นธนาคารที่เชี่ยวชาญในตลาดกลุ่มลูกค้าระดับเศรษฐีมั่งคั่งยักษ์ใหญ่แห่งเดียวของโลกด้วย

เมื่อช่วงเดือนมีนาคมผ่านมา ธนาคารเครดิต สวิส ได้ตกอยู่ภายใต้การเข้าควบคุมและดำเนินกิจการของธนาคารยูบีเอส หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงการควบรวมกิจการโดยมีรัฐบาล และธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์เป็นฝ่ายร่วมเจรจาด้วย ซึ่งหนึ่งในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของทั้ง 2 ธนาคารนั้น จะต้องมีการลดต้นทุนด้านการจ้างพนักงานโดยเฉพาะธนาคารเครดิต สวิส

ในช่วงเวลานั้น ธนาคารยูบีเอสประเมินว่าจากการควบรวมกิจการของทั้ง 2 ธนาคาร ทำให้มีจำนวนพนักงานรวมกันมากถึงเกือบ 125,000 คน โดยมีสัดส่วนพนักงานคิดเป็น 30% ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นั่นหมายถึง เกิดความซ้ำซ้อนของจำนวนและตำแหน่งพนักงาน ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตสภาพคล่องของธนาคารเครดิต สวิส นั้น ธนาคารดังกล่าวมีแผนการจะต้องลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปลดพนักงานเครดิต สวิส จำนวน 9,000 คน