เททั้งแผง! ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำกำไรต่อวันที่ 3 ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดลง -70 จุด

166
0
Share:

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 36,054  จุด -70 จุด หรือ -0.19% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,549 จุด -17 จุด หรือ -0.39% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,146 จุด -83 จุด หรือ -0.58% ส่งผลตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.4%, +0.77% และ +0.38% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ส่งผลจะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบในรอบกว่า 2 ปี

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นถึง +8.8%, +8.9% และ +10.7% ตามลำดับ ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติปิดรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่ตุลาคมปี 2022 ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคทำสถิติปิดรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคมปี 2022 ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงเดือนพฤศจิกายนผ่านไป พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นถึง +8.9%, +19% และ +35.9% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนขายทำกำไรรับวันที่ 3 ทำการต่อเนื่อง หลังจากดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์ผ่านไป เป็นผลจากประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา กล่าวปาฐกถาพิเศษในคืนผ่านมา โดยมีใจความสำคัญว่าความเสี่ยงของการใช้เครื่องมือดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐไม่ว่าจะปรับขึ้นสูงเกินไป และปรับลงต่ำเกินไป กำลังจะนำไปสู่ความสมดุลย์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เฟดไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนประเมินในทิศทางบวก และเกิดความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะจบสิ้นรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอาจเป็นไปได้สูงที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2024

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% ยังคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 60% จากเดิมที่ 50% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรกในต้นเดือนมีนาคมปี 2024