เทรดเบาบาง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 150 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 84 ดอลลาร์

146
0
Share:
เทรดเบาบาง! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งกว่า 150 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 84 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,347 จุด +152 จุด หรือ +0.45% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,026 จุด -1 จุด หรือ -0.01% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,226 จุด -58 จุด หรือ -0.52% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับขึ้น 1.78%, 1.53% และ 0.72% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับแนวโน้มการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา หรือเฟด หลังจากการเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา พบส่งสัญญาณชัดเจนถึงความกังวลต่อผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น ทำให้ความเห็นของกรรมการส่วนใหญ่ไปในทิศทางว่าอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราน้อยลง

นอกจากนี้จำนวนแรงงานชาวอเมริกันขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์ถึงเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พบว่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 240,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 225,000 คน

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.1% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ลดลง -4.7% และ -4.6% ตามลำดับ และยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ต่อเนื่อง

สาเหตุจากบรรยากาศซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางหลังเปิดทำการได้เพียงวันเดียวก็เข้าสู่สุดสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 เปิดเผยว่า กำลังมองหาช่วงราคาที่เหมาะสมในการประกาศใช้มาตรการเพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่าง 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกมากน้อยแค่ไหน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,755.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.00% ราคาทองคำที่ปรับขึ้นรอบเดือนพฤศจิกายนนี้ขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 1,786.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ราคาปิดขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน

ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณชัดเจนถึงความกังวลต่อผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น ทำให้ความเห็นของกรรมการส่วนใหญ่ไปในทิศทางว่าอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราน้อยลง ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าต่อเนื่อง สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นปรับลดลงด้วย