เทสลาปิดผลงานขายรถไฟฟ้าทั่วโลกปี 66 แตะ 1.8 ล้านคัน คว้าแบรนด์ขายรถไฟฟ้าอันดับ 2 โลก

137
0
Share:
เทสลา ปิดผลงานขายรถไฟฟ้าทั่วโลกปี 66 แตะ 1.8 ล้านคัน คว้าแบรนด์ขายรถไฟฟ้าอันดับ 2 โลก

เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ยอดขายสิ้นสุดไตรมาสที่ 4 ปีผ่านไป สามารถทำได้ 484,507 คัน ไม่เพียงจะทำสถิติยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ของเทสลาเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเลขยอดขายสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทำยอดขายในไตรมาสที่ 4 ที่จำนวน 483,137 คัน ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2023 ผ่านไปนั้น เทสลามียอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกสะสมเป็น 1.8 ล้านคัน ทำให้เทสลาขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลกในยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตามหลังบีวายดีที่ครองอันดับ 1 ของโลกด้วยยอดขายสูงถึง 3.01 ล้านคัน

ก่อนหน้านี้ นายอีลอน มัสค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทสลา เคยกล่าวว่า ศักยภาพของแบรนด์เทสลาสามารถที่จะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเทสลารวมทั่วโลกในปี 2023 ได้ที่ 2 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม ยอดขายรวมทั่วโลกในปีผ่านไปกลับต่ำกว่าที่คาดไว้ราว 11% ท่ามกลางการใช้กลยุทธ์สงครามราคาหลายครั้งหลายครานับตั้งแต่กลางปีจนถึงปลายปีผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในแง่การทำรายได้รวมและกำไรระหว่างแบรนด์เทสลาและบีวายดี กลับพบว่า เทสลามีทั้งรายได้รวมและผลกำไรที่สูงกว่าค่ายบีวายดีอย่างชัดเจน เนื่องจากเทสลาตั้งราคาขายสูงกว่าบีวายดีในทุกรุ่นด้วยเป้าหมายกลุ่มผู้ใช้รถไฟฟ้าระดับพรีเมียมทั่วโลก นอกจากนี้ เทสลาเน้นทำกำไรสูงจาก 2 รุ่นสำคัญ ได้แก่ โมเดลวาย(Y) ในแบบรถเอสยูวี และโมเดล 3 ในประเภทรถเก๋ง ซึ่งยอดขายทั้ง 2 รุ่นนี้ รวมคิดเป็น 95% ของยอดขายรวมในไตรมาสที่ 4 ปี 2023

ท่ามกลางยอดขายของบีวายดีที่มีมากถึง 3.01 ล้านคันทั่วโลก และกลายเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าที่ขายดีมากที่สุดอันดับ 1 ของโลกก็ตาม แต่รถไฟฟ้าบีวายดีกลับไม่สามารถเจาะและทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกาได้ รถไฟฟ้าเทสลายังคงรักษาความเป็นเจ้าตลาดอันดับ 1 ได้อย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากรถไฟฟ้าบีวายดีจะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 27.5% และมาตรการอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคในการทำตลาดของรถไฟฟ้าบีวายดีในสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ ยอดขายรถไฟฟ้าแบรนด์เทสลาทำได้มากกว่าในทุกไตรมาสติดต่อกัน หรือ 11 ไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2021 เรื่อยมาจนกระทั่งถึงไตรมาสที่ 4 ในปีผ่านไปที่แบรนด์รถไฟฟ้าบีวายดีสามารถทำยอดขายจำนวน 526,409 คัน โดยมีทั้งยอดขายรถไฟฟ้า 100% และรถยนต์ไฮบริดพลักอิน ซึ่งมากกว่าแบรนด์เทสลาที่ขายได้จำนวน 484,507 คัน ซึ่งยอดขายในไตรมาสที่ 4 ของทั้ง 2 แบรนด์ล้วนเป็นสถิติใหม่และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแต่ละแบรนด์ด้วย