เทสลาสหรัฐฟ้องเทสลาอินเดีย ก๊อบปี้ตราสินค้า-ชื่อแบรนด์เทสลาใช้ทำตลาดขายแบตเตอรี่ในอินเดียมา 2 ปี

55
0
Share:
เทสลา สหรัฐ ฟ้องเทสลา อินเดีย ก๊อบปี้ตราสินค้า-ชื่อแบรนด์เทสลาใช้ทำตลาดขายแบตเตอรี่ในอินเดียมา 2 ปี

เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ค่ายผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้า หรือรถบีอีวีชื่อดังและหรูหรารถดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในประเทศอินเดีย เนื่องจากบริษัทเอกชนรายหนึ่งในประเทศอินเดียซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าได้ใช้ชื่อแบรนด์และตราสินค้าว่า เทสลา พาวเวอร์ (Tesla Power) กับสินค้าแบตเตอรี่ไฟฟ้าของบริษัทดังกล่าวเพื่อทำการตลาดในอินเดีย

การดำเนินการฟ้องศาลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ในเดือนเมษายน 2022 เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังบริษัทเทสลา พาวเวอร์ อินเดีย พีวีที จำกัด เป็นระยะๆ ให้ยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า และชื่อสินค้าของเทสลา อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ดังกล่าวกลับเพิกเฉย และไม่ยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าว

ในทางกลับกัน บริษัทเทสลา พาวเวอร์ อินเดีย พีวีที จำกัด ได้ยื่นชี้แจงว่าธุรกิจหลักของบริษัทฯ เกี่ยวกับการผลิตแผ่นแบตเตอรี่เป็นวัสดุตะกั่วกรด บริษัทฯ ไม่มีความตั้งใจใดๆในการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าใช้กับรถอีวี ด้านผู้พิพากษาศาลอินเดีย มีคำสั่งให้บริษัทฯ ดังกล่าวดำเนินการส่งเอกสารเป็นรายลักษณ์อักษรชี้แจงและอธิบายต่อข้อกล่าวหา โดยให้เวลา 3 สัปดาห์

ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปประเทศอินเดียในวันที่ 22 เมษายน เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นายนาเรนธา โมดิ ซึ่งไม่ได้ระบุเหตุผลการยกเลิกกำหนดการเดินทางดังกล่าว

เมื่อวันที่ 4 เมษายนผ่านมา เทสลาเปิดเผยว่าภายในเดือนเมษายน จะส่งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังประเทศอินเดีย เพื่อเป้าหมายในการสำรวจพื้นที่หลายแห่งที่มีความเหมาะสมที่จะลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีแบรนด์เทสลา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า กิ๊กกะแฟคตอรี่ สำหรับมูลค่าการลงทุนก่อสร้างโรงงานดังกล่าวของเทสลาในอินเดียอยู่ระหว่าง 2,000-3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 74,000-111,000 ล้านบาท ทีมสำรวจในครั้งนี้ จะเดินทางไปยัง 3 รัฐสำคัญ ได้แก่ รัฐคุชราฏ รัฐมหาราษฏระ และรัฐทมิฬนาฑู พื้นที่ทั้ง 3 รัฐดังกล่าวมีการสร้างระบบนิเวศน์ที่เหมะสมอย่างยิ่งกับยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะกับฐานการส่งออกไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ ศาลสูงอินเดีย นัดฟังคำพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม 2024 นี้