เทหุ้นสหรัฐ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งกว่า 140 จุด น้ำมันดิบโลกปิดเหนือ 86 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,886 จุด -143 จุด หรือ -0.42% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,137 จุด -8 จุด หรือ -0.21% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,123 จุด -42 จุด หรือ -0.35% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง เพิ่มขึ้น +1.2%, +0.79% และ +0.29% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์รายสัปดาห์ปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน สอดคล้องกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันจาก 5 สัปดาห์ผ่านมา

สาเหตุจากตัวเลขยอดขายปลีกเดือนมีนาคมในสหรัฐอเมริกาลดลงถึง 1% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.5% ทำสถิติยอดขายปลีกต่ำสุดในรอบ 4 เดือนหรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2022

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 82.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 86.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.3%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.4% และ +1.5% ตามลำดับ ที่สำคัญเป็นราคารายสัปดาห์ที่ปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลทำสถิติราคาปิดรายสัปดาห์ที่ยาวนานในรอบ 10 เดือน หรือตั้งแต่มิถุนายน 2022 เป็นต้นมา

สาเหตุจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มโอเปกและโอเปกพลัส ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วยได้ประกาศลดกำลังการผลิตมากถึงวันละ 1.6 ล้านบาร์เรลนั้น อาจทำให้ภาวะปริมาณตลาดน้ำมันดิบตึงตัวทั่วโลกเข้าสู่ภาวะรุนแรงมากขึ้น และกระทบต่อผู้บริโภคน้ำมันดิบทั่วโลก นอกจากนี้ คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงถึงวันละ 400,000 บาร์เรลภายในสิ้นปีนี้

ไออีเอ เปิดเผยต่อไปว่า ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2023 จะมีเพิ่มขึ้นถึงวันละ 2 ล้านบาร์เรล ทำสถิติปริมาณบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 101.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน สาเหตุจากจีนแผ่นดินใหญ่มีความต้องการใช้น้ำมันดิบมากขึ้นจากการเปิดประเทศ นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินเพิ่มขึ้นถึง 57% ของตัวเลขคาดการณ์ปริมาณบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,005.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -34.18 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.69% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,015.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ -36.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ -1.9%

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากตัวเลขยอดขายปลีกเดือนมีนาคมในสหรัฐอเมริกาที่้ลดต่ำลงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่าขึ้นจากระดับอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 1 ปี สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาย้อนกลับสูงขึ้นตลอดทั้งคืนผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมุมมองของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในบางสาขากล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกายังคงต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อต่อเนื่อง