เทหุ้นแดง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์หล่นเกือบ 60 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 77 ดอลลาร์

162
0
Share:
เทหุ้นแดง! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ หล่นเกือบ 60 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 77 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,561 จุด -56 จุด หรือ -0.17% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,119 จุด -18 จุด หรือ -0.46% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,179 จุด -77 จุด หรือ -1.63%

สาเหตุจากนักลงทุนรอตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานและทั่วไปของเดือนเมษายนที่จะประกาศในวันพุธนี้ ตามด้วยตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าในเดือนเดียวกันที่จะประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่สัปดาห์ผ่านไป ยอดการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนเมษายน พบว่า เพิ่มขึ้นถึง 253,000 คน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 คน ส่งผลให้ใน 6 เดือนผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 290,000 คน

สอดคล้องกับอัตราการว่างงานในเมษายนกลับลดต่ำลงที่ระดับ 3.4% กลับมาทำสถิติอัตราการว่างงานที่ต่ำสุดในรอบ 53 ปี หรือตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา ขณะที่ อัตราเฉลี่ยค่าจ้างแรงงานรายชั่วโมงเดือนเมษายน พบว่า เพิ่มขึ้นจาก 0.5% หากเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว พบว่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.4%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเฝ้าจับตามองสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.8% ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดขึ้น 3 วันทำการติดกันรวม 5.15 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 77.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.6% ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ปิดขึ้น 3 วันทำการติดกันรวม 4.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนและนักวิเคราะห์วงการน้ำมันดิบโลกประเมินว่า การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในเดือนมิถุนายนนี้ อาจมีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีก ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีน พบว่ายอดการนำเข้าทั่วไปเดือนเมษายนลดลง และภาวะส่งออกในเดือนเดียวกันชะลอตัวด้วย ทำให้กระทบต่อความต้องการบริโภคน้ำมันดิบ นอกจากนี้

กระทรวงพลังงาน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาเตรียมซื้อน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับเข้าไปเติมปริมาณสำรองน้ำมันดิบยุทธศาสตร์ภายในช่วงครึ่งปีหลังนี้ หลังจากในช่วงผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้เปิดขายน้ำมันดิบสำรองดังกล่าวเข้าสู่ตลาดโลกเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงจากปัญหาสงครามรัสเซียกับยูเครนมาเป็นเวลากว่า 1 ปี

ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า คาดการณ์ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกาตามฤดูกาลในปีนี้จะเพิ่มขึ้นท่ามกลางปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะลดต่ำลง

นักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,068 ล้านล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,021.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น +13.06 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.7% ในสัปดาห์ผ่านไป เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค.ผ่านมา ราคาทองคำดังกล่าวทำสถิติราคาปิดสูงสุดตั้งแต่ 14 เมษายน หรือในรอบ 3 สัปดาห์ผ่านมา ที่สำคัญ มีราคาทองคำส่งมอบทันทีในคืนวันที่ 4 พ.ค. พุ่งขึ้นไปสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 2,072.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเฉียดราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,042.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +9.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.4%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อเดือนเมษายนในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายน