เที่ยวบินแรกจากญี่ปุ่นถึงไทยแล้วมีผู้โดยสารจำนวน 43 ราย เปิดประเทศนักท่องเที่ยวเตรียมเข้าไทยกว่า 20,000 คน

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงยอดการจองบัตรโดยสารของเที่ยวบินที่ทำการบินเข้าประเทศไทย วันที่ 1-5 พ.ย.2564 ซึ่งเป็น ณ วันที่ 29 ต.ค.2564 มีจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่ทำการจองบัตรโดยสารเตรียมเดินทางเข้าและออกประเทศไทย เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 21,316 คน แบ่งเป็นการเดินทางเข้า 15,037 คน และเดินทางออก 6,279 คน

โดยแบ่งปริมาณเป็นการเดินทางเข้าและออกของนักท่องเที่ยวตามวันดังนี้ วันที่ 1 พ.ย. จำนวน 5,745 คน, วันที่ 2 พ.ย. จำนวน 5,331 คน, วันที่ 3 พ.ย. จำนวน 3,893 คน, วันที่ 4 พ.ย. จำนวน 5,154 คน และ วันที่ 5 พ.ย. จำนวน 5,137 คน

โดยได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 26 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, อังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, เดนมาร์ค, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เนเธอร์แลนด์, อินเดีย, อิสราเอล, ออสเตรีย, รัสเซีย, จีน, ลาว และ คาซัคสถาน โดยมีปลายทางไปยัง 3 จังหวัดของไทยซึ่ง ส่วนใหญ่เดินทางมายัง กรุงเทพมหานคร รองลงมาคือภูเก็ต และ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการโดยสารผ่านสายการบินทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 27 สายการบินจากทั่วโลก

สำหรับเที่ยวบินแรกที่เดินทางสู่ประเทศไทย เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สวมชุด PPE และหน้ากากอนามัย ตรวจสอบผู้โดยสารจากเที่ยวบิน NH805 ที่เดินทางจากสนามบินโตเกียวนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในเวลาประมาณ 24.00 น.มีผู้โดยสารจำนวน 43 คน เป็นคนไทยจำนวน 32 คน และชาวต่างชาติ จำนวน 11 คน เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสัมภาระ และคัดกรองผู้โดยสารอย่างละเอียด เช่น เอกสารการเข้าประเทศ เอกสารการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง

เมื่อผ่านการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ยืนยันตัวตน จะต้องถูกตรวจซ้ำอีกครั้งที่จุดคัดกรองบริเวณประตูทางออก และจะมีเจ้าหน้าที่ประจำที่พักค่อยประสาน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลการเดินทางไปยังเป้ามาย และผู้โดยสารที่ผ่านการตรวจคัดกรองจากด้านในแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนตรวจสอบที่พัก เพื่อขึ้นรถโดยสารเพื่อไปยังพัก ซึ่งทำความสะอาดฆ่าเชื้อสัมภาระที่นำมาก่อนขึ้นรถ หากถึงโรงแรมหรือที่พักจะต้องทำการสวอปเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง