เนเธอร์แลนด์เผยผู้โดยสารติดโควิด-19 พันธ์ุโอไมครอนถึง 20%

กระทรวงสาธารณสุขประเทศเนเธอน์แลนด์ รายงานว่า ผลการตรวจเชื้อของผู้โดยสารที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 61 รายที่มาจาก 2 เที่ยวบินของสายการบินเคแอลเอ็มซึ่งเดินทางจากแอฟริกาใต้มาถึงกรุงอัมสเตอร์ดัมเมื่อช่วงเวลา 19.00 น.ของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวน 13 ราย หรือคิดเป็น 21% ของจำนวน 61 ราย ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน

ผลจากการยืนยันตรวจพบการระบาดของโรคระบาดโควิด-19 ในกลุ่มผู้โดยสารจำนวน 13 รายที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้นั้น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ประกาศติดตามผู้โดยสารอีกจำนวน 5,000 คนที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ บอทสวาน่า เอสวาตีนี เลโซโท โมซัมบิก นามีเบีย และซิมบับเว มาถึงกรุงอัมสเตอร์ดัมเมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนอย่างเร่งด่วน

รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินใจประกาศมาตรการปิดล็อกดาวน์ครั้งใหม่กับกิจการแหล่งบันเทิง ได้แก่ บาร์ ไนท์คลับ นอกจากนี้ สั่งปิดล็อกดาวน์ธุรกิจร้านอาหาร และค้าปลีก มีผลตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานนี้เป็นต้นไป เพื่อควบคุมสถานการณ์เชิงรุกกับโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่มีแนวโน้มพบการระบาดเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เนเธอร์แลนด์ตรวจพบผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยเครื่องบินจำนวน 2 เที่ยวบิน ซึ่งถูกกักตัวทั้งหมดที่สนามบินนานาชาติชิปโฮล กรุงอัมสเตอร์ดัม รวม 61 ราย หรือคิดเป็น 10% ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจำนวนทั้งหมด 600 รายใน 2 เที่ยวบินของสายการบินเคแอลเอ็มจากประเทศแอฟริกาใต้ โดยทีการประเมินว่ามีความเป็นได้ที่ผู้ติดเชื้อ 61 ราย จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขประเทศเนเธอร์แลนด์ รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ 28 พฤศจิกายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,133 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 2,599,579 ราย อยู่อันดับที่ 21 ของโลก ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 45 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 19,317 ราย