เน็ตฟลิกซ์ จับมือภาครัฐเปิดตัวคู่มือเที่ยวไทยตามภาพยนตร์-ซีรีส์ดัง หวังใช้ Soft Power
เน็ตฟลิกซ์ ( Netflix) ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงระดับโลก ประกาศความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) ในการเปิดตัวคู่มือการท่องเที่ยวไทยโฉมใหม่ (www.thailandtravelmap.com)
โดยโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Uncover Thailand: A Creative Travel Guide” คู่มือเที่ยวไทยที่จะพานักท่องเที่ยวไปเยือนสถานที่ถ่ายทำของภาพยนตร์และซีรีส์ทั้งของไทยและต่างชาติที่รับชมได้บน Netflix รวมถึงสิ่งที่น่าสนใจที่รายล้อมและต่อยอดการท่องเที่ยวได้จากภาพยนตร์และซีรีส์เหล่านั้น เพื่อค้นพบความงดงามของธรรมชาติ ลิ้มรสอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ และสัมผัสวัฒนธรรมและมรดกต่าง ๆ ของประเทศไทยผ่านมุมมองใหม่
นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าว สอดคล้องกับแผนงานของ ททท. ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวอย่าง Soft Power เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่มความสนใจพิเศษ เช่น กลุ่มผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ หรือ กลุ่มแฟนคลับนักแสดง รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลการท่องเที่ยวและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย ควบคู่กับช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
นางวนบุษป์ อรรถวิทย์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กล่าวว่า ในอดีตประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง และช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย เช่น เขาตาปู ภายในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง 007 เพชฌฆาตปืนทอง (The Man with the Golden Gun) ซึ่งออกฉายในปี 2517
“กรมมีหน้าที่ในการรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติเพื่อลูกหลาน ในเวลาเดียวกันยังมีพันธะกิจในการสนับสนุนการท่องเที่ยว กรมยินดีให้กองถ่ายภาพยนตร์ใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติในจุดที่เหมาะสม ภายใต้ข้อกำหนดการรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ให้มากที่สุด” นางวนบุษป์กล่าว
ด้าน ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ซึ่งหากนำมาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม ทั้งในระดับประเทศและระดับชุมชนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ปัจจุบันสำนักงานยังมีโครงการ Content Lab ซึ่งช่วยอบรม พัฒนา ทีมงานเบื้องหลังอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศไทย พร้อมจับมือกับบริษัทสื่อขนาดใหญ่เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ร่วมกัน และยังอำนวยความสะดวกในการจับคู่ธุรกิจ เพื่อนำเสนอไอเดียออกสู่ท้องตลาดต่อไป
ดร.ศรุต วิทยารุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะ ประเทศไทย ลาวและกัมพูชา Netflix กล่าวว่า Netflix นำเสนอภาพยนตร์และซีรีส์ที่หลากหลายและเผยแพร่ภาพความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และศิลปวัฒนธรรมของนานาประเทศออกสู่สายตาผู้ชมกว่า 190 ประเทศทั่วโลก
“จากการสำรวจข้อมูลของ Netflix ใน 10 ประเทศทั่วโลกพบว่า หากผู้ชมสื่อมีความประทับใจต่อสถานที่ที่ปรากฏในสื่อ อาจเกิดความต้องการการออกเดินทางสูงถึง 2.4 เท่า และในทุกการลงทุนผลิตคอนเทนต์ 1 ครั้ง จะสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ เช่น เกิดการไปเยี่ยมเยือน การจ้างงาน ได้ถึง 2.5 เท่าของเม็ดเงินที่ลงทุนไป” ดร.ศรุตกล่าว
ดร.ศรุต กล่าวต่อไปว่า บริษัทเล็งเห็นถึงความงามและคุณค่าของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย และเชื่อมั่นว่าภาพยนตร์และซีรีส์เป็นสื่อกลางที่มีประสิทธิภาพในการนำเสนอภาพสถานที่ท่องเที่ยว และบอกเล่าถึงประสบการณ์อีกมากมายที่นักท่องเที่ยวจะได้พบในประเทศไทย
Netflix จึงได้ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ ได้จัดทำคู่มือการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อต่อยอดผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ของ Netflix สู่การร่วมกันส่งต่อความงดงามในมิติต่าง ๆ ของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
