เบทาโกรกำไรทะลักกว่า 1,900 ล้านบาท พร้อมเข้าตลาดหุ้นไทย จ่อขายหุ้น 500 ล้านหุ้น

862
0
Share:

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล่าสุด บริษัทฯ แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ รวมถึงร่างหนังสือชี้ชวน หรือ ไฟลิ่ง ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 500,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัท กรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)

บริษัทฯ มีแผนนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อ และ/หรือ ก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ส่วนที่เหลือนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างเงินทุนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการ

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวม 26,163.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 1,966.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของปริมาณการขายและราคาสินค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าและบริการจากทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งได้แก่ กลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง รวมถึงการเติบโตของอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ซึ่งโดยหลักเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ทั้งในประเทศและการส่งออก สัตว์ปีก ไข่ไก่ อาหารแปรรูป และเนื้อสัตว์แปรรูป สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของราคาตลาดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รวมถึงการเติบโตของอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

ด้านกลุ่มธุรกิจเกษตร มีรายได้เพิ่มขึ้นจากราคาขายสินค้าตามต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ที่มีความโดดเด่นทั้งรายได้จากการเพิ่มขึ้นของราคาและปริมาณขายผลิตภัณฑ์หมู ไก่ ไข่ไก่ อาหารแปรรูป และเนื้อสัตว์แปรรูป รวมทั้งมีกำไรจากการดำเนินงานและอัตรากำไรที่สูงขึ้น

ขณะที่กลุ่มธุรกิจต่างประเทศนั้น บริษัทได้รับผลดีจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายอาหารสัตว์ตามต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และการเพิ่มขึ้นของราคาขายสัตว์ที่มีชีวิตในประเทศกัมพูชาและลาว กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง มีการดำเนินธุรกิจที่โดดเด่น จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย ราคาขายอาหารสัตว์เลี้ยง และขนมขบเคี้ยวสัตว์เลี้ยง สอดคล้องกับกลยุทธ์บริษัทฯ ที่มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงมากยิ่งขึ้น