เบทาโกรไตรมาส 2 ผิดโผ ขาดทุนกว่า 300 ล้านบาทจากเคยกำไรถึงกว่า 1,800 ล้านบาท

บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปีนี้ ปรากฎว่าขาดทุน 350.6 ล้านบาท ลดลง 118.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 1,868.9 ล้านบาท ด้านรายได้รวม พบว่ามีจำนวน 26,661.8 ล้านบาท ลดลง 5.1% เมื่อเปรียบเทียบจากในช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีจำนวน 28,108.0 ล้านบาท

เนื่องจากรายได้การขายสินค้าและให้บริการในกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีนลดลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาสุกรในประเทศที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยมีสาเหตุจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อสุกรผิดกฎหมาย แม้ว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นตามแผนการขยายกำลังผลิต

สำหรับตัวเลข EBITDA ในไตรมาส 2 นี้ อยู่ที่ 901.0 ล้านบาท ลดลง 74.4% จากเดิมที่เคยมี 3,517.4 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปีผ่านมา บริษัทฯ มีอัตรา EBITDA อยู่ที่ 3.4% ในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ 12.5% ในไตรมาส 2 ของปี 2565

สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2566 พบว่า มีกำไรสุทธิ 42.18 ล้านบาท ลดลง 98.9% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,838.94 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 54,621.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% จากเดิมในไตรมาส 2 ปีผ่านมาที่ 54,090.5 ล้านบาท สาเหตุจากการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการของ (1) กลุ่มธุรกิจเกษตร จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายสินค้า ตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการขยายกำลังการผลิต

กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ จากปริมาณขายอาหารแปรรูปและเนื้อสตัว์แปรรูปที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศกัมพูชาและลาว และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายอาหารสัตว์เลี้ยง สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้การขายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้น