เบลเยียมยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายสูงสุดหลังชาย 2 คนถูกยิงใจกลางเมืองหลวง บาดเจ็บอีก 1

206
0
Share:
เบลเยียม ยกระดับ เตือนภัย ก่อการร้ายสูงสุดหลังชาย 2 คนถูกยิงใจกลางเมืองหลวง บาดเจ็บอีก 1

รัฐบาลประเทศเบลเยียมประกาศยกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายขึ้นสูงสุด หลังจากเกิดเหตุการณ์ชายผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวสวีเดนเสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นคนขับแท็กซี่ จากนั้นผู้ก่อเหตุหลบหนีไปได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการเริ่มแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมชาติสวีเดนกับทีมชาติเบลเยียมที่สนามสเตเดี้ยมใจกลางกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ต้องสงสัยที่ใช้อาวุธปืนยิงชาวสวีเดนเสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้ปรากฏตัวทางสื่อออนไลน์มีชื่อว่า นายอับเดซาเลม อัล กุยลานี พร้อมประกาศว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เป็นนักรบเพื่อพระเจ้า และมาจากรัฐแห่งอิสลาม

นายกรัฐมนตรีเบลเยียม กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวสวีเดน ในฐานะที่ประเทศทั้ง 2 เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกัน เบลเยียมและสวีเดนจะร่วมมือกันต่อสู้กับการก่อร้ายด้วยกัน ด้านนายกรัฐมนตรีสวีเดน เปิดเผยว่า ชาวสวีเดนที่อยู่ในประเทศเบลเยียมขณะนี้ จะได้รับข้อความสั้น หรือ SMS ส่งตรงไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังตัวตลอดเวลา และขอให้ปฏิบัติตัวตามแนวทางของรัฐบาลเบลเยียม

สื่อในประเทศเบลเยียม รายงานว่า บรรดาแฟนบอลและผู้ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่าก่อนที่มือปืนจะลงมือยิงนั้น ได้ตะโกนว่า อัลเลาะก์อักบัร ( Allahu Akbar) ซึ่งแปลว่าอัลลอฮ์ทรงเกรียงไกร ด้านสื่อหนังสือพิมพ์ในเบลเยียม ชื่อว่า Het Laatste Nieuws เปิดเผยภาพวีดิโอจากกล้องวงจรปิด พบชายผู้ก่อเหตุสวมเสื้อแจกเก็ตสีส้มกำลังขับขี่จักรยานยนต์ประเภทสกู๊ตเตอร์ที่บริเวณสี่แยก ในมือถืออาวุธปืนไรเฟิล ได้ยิง 2 นัดแรก จากนั้นไม่นานยิงอีก 3 นัด จากนั้นชายคนดังกล่าวลงจากสกู๊ตเตอร์วิ่งเข้าไปในอาคาร และได้ยินเสียงปืนอีก 2 นัด ก่อนที่จะออกมาจากอาคาร และยิงอีก 1 นัด ก่อนจะหลบหนี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประเทศเบลเยียม เปิดเผยว่า เนื่องจากแรงจูงใจในการก่อเหตุเป็นประเด็นการก่อการร้าย การสืบสวนสอบสวนคดีนี้จะอยู่ในการรับผิดชอบของสำนักอัยการแห่งรัฐ อัยการแห่งรัฐบาลเบลเยียม เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบง่า ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับชายผู้ก่อเหตุมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สู้รบรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธในตะวันออกกลาง

ขณะที่เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมผ่านไป ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง เปิดเผยว่า มีคำสั่งระดมทหารจำนวน 7,000 นาย เข้าทำหน้าที่ลาดตะเวน เฝ้าสอดส่อง และป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดจากภัยการก่อการร้ายในเมืองหลวงกรุงปารีส และเมืองใหญ่สำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว โดยทหารทั้ง 7,000 นาย จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่เต็มรูปแบบตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส

สาเหตุจากเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ที่ผ่านไป เหตุการณ์ฆาตรกรรมครูอายุ 20 ปี เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองอารัส (Arras) อยู่ทางภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผลจากการสืบสวนและสอบสวน พบว่า ชายมีชื่อว่าโมฮัมหมัด เอ็ม ซึ่งถูกจับกุมตัวได้นั้น เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลาย Lycee Gambetta ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ร้ายดังกล่าว โดยก่อนลงมือใช้มีดแทงครูนั้น พยานจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ได้ยินนายโมฮัมหมัด เอ็ม ตะโกนเสียงดังว่า อัล เลาะก์อักบัร ( Allahu Akbar) ซึ่งแปลว่าอัลลอฮ์ทรงเกรียงไกร จากนั้นลงมือแทงครูคนดังกล่าว ทางการฝรั่งเศส เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายโมฮัมหมัด เอ็ม อยู่ในรายชื่อกลุ่มคนประเภทความเสี่ยงต่อความมั่นคงของฝรั่งเศส