เบโคยกระดับโรงงานที่ระยองกว่า 6,000 ล้าน ขึ้นศูนย์ผลิตสินค้าส่งออกในอาเซียน

434
0
Share:
เบโค ยกระดับ โรงงาน ที่ ระยอง กว่า 6,000 ล้าน ขึ้นศูนย์ผลิตสินค้าส่งออกในอาเซียน

นายอุทกู บาริช พาซาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกลยุทธ์และงานดิจิทัล บริษัท อาร์เซลิก หรือ Arçelik ซึ่งผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในยี่ห้อเบโค (Beko) เป็นหนึ่งในสามแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนขนาดใหญ่ของประเทศตุรกี กล่าวว่าได้เลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคของผลิตภัณฑ์เบโค ด้วยการใช้งบประมาณลงทุนฐานผลิตโรงงานในประเทศไทยเป็นมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท หรือประมาณ 166 ล้านเหรียญยูโร

ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า 600,000 หน่วยต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 750,000 หน่วยภายในปี 2024 ซึ่งกำลังการผลิตนี้ช่วยเอื้อประโยชน์ให้เราสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงสหรัฐอเมริกา กลุ่มภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ และยุโรป ได้อย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ ได้ลงทุนพัฒนาตู้เย็นระดับพรีเมียมที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่โรงงานระยอง โดยใช้งบประมาณลงทุนในโครงการดังกล่าวราว 130 ล้านบาท หรือประมาณ 3.5 ล้านยูโร เช่น เทคโนโลยีจำลองการสังเคราะห์แสงอาทิตย์ 24 ชั่วโมง ด้วยแสง 3 สีแห่งสุขภาพในช่องแช่ผักผลไม้ช่วยคงคุณค่าวิตามินของผักผลไม้ให้นานยิ่งขึ้น

รวมถึงระบบระบายความร้อน AeroFlow มาใช้ คุณสมบัตินี้ช่วยให้รักษาความสดได้ยาวนานขึ้น 30% และช่วยให้ผักผลไม้ลดการสูญเสียปริมาตร ยังคงความสดได้ยาวนาน รวมถึง NutriFreeze ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพื่อรับรองตัวเลือกการแช่แข็งแบบอ่อนในช่องผลิตภัณฑ์นม

เครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติ หรือ Auto-Ice Maker ที่รองรับการผลิตน้ำแข็งได้ถึง 2.7 กก. FreshGuard ช่วยกำจัดกลิ่นและแบคทีเรียได้ถึง 90% ด้านหลังเป็นแผ่นโลหะ เพื่อเสริมความพรีเมียม ด้านข้างยังมีช่องขนาดใหญ่สำหรับขวดขนาดแกลลอน ที่สำคัญตู้เย็นเครื่องนี้ยังมีระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตั้งปรับอุณหภูมิเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยอีกด้วย

นายแอเรียล อทากูล ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เบโค ไทย จำกัด กล่าวว่า เราดำเนินธุรกิจในไทยมากว่า 8 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นหัวใจของเราสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ ตู้เย็น ซึ่งมียอดขายมากกว่า 40% รองลงมาจะเป็นเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เครื่องล้างจาน และเตาอบ

ทั้งนี้ ในปี 2022 ถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกคนเนื่องจากผลกระทบของโควิด แต่เรายังคงทำยอดขายได้เติบโตเฉลี่ยที่ 25% และพร้อมตั้งเป้าหมายสำหรับปีหน้าให้สูงขึ้น เราวางแผนที่จะเพิ่มการเติบโตทางธุรกิจขึ้นอีกสองเท่าภายในปี 2024 นอกจากนี้ รูปแบบพฤติกรรมผู้บริโภค และทำให้พวกเขามีความรู้สึกมั่นใจกับการซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะฐานลูกค้าในกลุ่ม GenZ ที่กำลังเติบโตและจะกลายมาเป็นผู้ที่ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ส่งผลให้แบรนด์ต้องวิเคราะห์พฤติกรรมการเลือกซื้อที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาบนแพลตฟอร์มดิจิทัล.