เปิดตลาดหุ้นวันแรก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เปิดดำดิ่งกว่า 500 จุด นาสแดคดำดิ่งเฉียด 200 จุด

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 9.30 น. (ตามเวลาในสหรัฐ) เปิดการซื้อขายตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พบว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,594 จุด -502 จุด หรือ -1.62% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,760 จุด -64 จุด หรือ -1.69% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,928 จุด -199 จุด หรือ -1.79%

สาเหตุจากนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาสะถดถอย หลังจากแบบจำลองจีดีพีสหรัฐอเมริกาของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาแอตแลนต้า พบว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูงต่อเนื่องยังคงสร้างแรงกดดันต่อการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นสูงอีก 0.75% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน

ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วงลง -1.3%, -2.2% และ -4.1% ตามลำดับ นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 จาก 5 สัปดาห์ที่ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่งปิดในแดนลบ

ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงหนักถึง -11.3% ส่งผลดำดิ่งมากกว่า 15% ในครึ่งปีแรก ด้านดัชนีหุ้นนาสแดคในไตรมาสที่ 2 ทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 โดยดำดิ่งหนักมากถึง -22.4% ที่สำคัญดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติทรุดหนักรุนแรงเฉียด -32% เข้าสู่ภาวะหมี หรือ Bear Market นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งเป็นวันที่ดัชนีดังกล่าวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่สำคัญยังตกต่ำมากถึง -29.5% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทรุดหนักกว่า -16% ทำสถิติรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่มีนาคม ปี 2020

นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดครึ่งปีแรก ทำสถิติดำดิ่งรุนแรงในรอบ 52 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมาเนื่องจากดำดิ่งหนักถึง -20.6% นอกจากนี้ยังทรุดหนักมากกว่า -21% เมื่อเทียบจากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2565 ทำให้เข้าสู่ภาวะหมี หรือ Bear Market