เปิดยอดขายรถยนต์ ม.ค.66 รวม 65,657 คัน ลดลง 5.6% ยาริส เอทีฟขายดี ดันโตโยต้าขึ้นแชมป์

397
0
Share:
เปิด ยอดขาย รถยนต์ ม.ค.66 รวม 65,657 คัน ลดลง 5.6% ยาริส เอทีฟ ขายดี ดัน โตโยต้า ขึ้นแชมป์

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม เปิดฤดูกาลขายประจำปี 2566 ด้วยยอดขาย 65,579 คัน ลดลง 5.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,864 คัน ลดลง 2.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 42,715 คัน ลดลง 7.3% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 31,771 คัน ลดลง 9.1%

โดยตลาดรถยนต์เดือนมกราคม 2566 มีปริมาณการขาย 65,579 คัน ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นปกติของการเปิดฤดูกาลขายตามดัชนีการขายประจำไตรมาสแรกของปีที่มักชะลอตัว โดยตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 2.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นเดียวกันที่ 7.3% โดยมีสถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตรถยนต์เป็นปัจจัยลบสำคัญที่ยังคงดำเนินอยู่ ในขณะที่ค่ายรถยนต์ต่างพยายามส่งมอบรถที่ได้รับจองในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงงาน “มหกรรมยานยนต์” ซึ่งกำลังซื้อของลูกค้าได้ถูกใช้ไปกับแคมเปญส่งเสริมการขายที่แรงที่สุดในรอบปี

ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มค่อยๆ ขยับตัวดีขึ้น จากปัจจัยบวกคือภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น อันเนื่องมาจากการเปิดประเทศภายหลังการคลี่คลายของสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้น ช่วยส่งเสริมภาพรวมของเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงราคาพลังงานที่รักษาระดับราคา ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 65,579 คัน ลดลง 5.6% โดยอันดับที่ 1 ยังเป็นโตโยต้า 23,796 คัน เพิ่มขึ้น 7.4% ส่วนแบ่งตลาด 36.3% ส่วนอันดับที่ 2 อีซูซุ 14,651 คัน ลดลง 5.0% ส่วนแบ่งตลาด 22.3% และอันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,071 คัน ลดลง 17.1% ส่วนแบ่งตลาด 10.8%

ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,864 คัน ลดลง 2.1% อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,664 คัน เพิ่มขึ้น 59.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.9% รองลงมาอันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,073 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 22.2% และอันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,556 คัน ลดลง 21.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,715 คัน ลดลง 7.3% อันดับที่ 1 โตโยต้า 15,132 คัน ลดลง 9.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.4% อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,651 คัน ลดลง 5.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.3% อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,376 คัน เพิ่มขึ้น 34.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

ด้านตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 31,771 คัน ลดลง 9.1% อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,543 คัน ลดลง 4.2% ส่วนแบ่งตลาด 42.6% อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,602 คัน ลดลง 12.3% ส่วนแบ่งตลาด 39.7% อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,376 คัน เพิ่มขึ้น 34.8% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,476 คัน โตโยต้า 2,253 คัน – อีซูซุ 1,723 คัน -ฟอร์ด 930 คัน -มิตซูบิชิ 471 คัน – นิสสัน 99 คัน

ส่วนตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 26,295 คัน ลดลง 12.9% อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,820 คัน ลดลง 7.8% ส่วนแบ่งตลาด 45.0% รองลงมา โตโยต้า 10,349 คัน ลดลง 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 39.4% และอันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,446 คัน เพิ่มขึ้น 16.0% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%

ทั้งนี้ ยอดขายรถเก๋งโตโยต้าเติบโต ส่งผลถึงยอดขายตลาดรวมเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเพิ่งเปิดตัว รถเก๋ง โตโยต้า ยาริส เอทีฟ รุ่นใหม่ มีกระแสตอบรับที่ดี ส่วนอีซูซุยังคงเป็นผู้นำรถปิกอัพ ส่วนค่ายฟอร์ดมียอดขายขึ้นมาอันดับ 3 จากการจำหน่ายรุ่นเรนเจอร์