เปิดสถิติเงินฝากคนไทยสิ้นปี 2565 รวมกว่า 16.17 ล้านล้านบาท คุ้มครองผู้ฝาก 90.14 ล้านราย ย้ำเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินไทยยังแข็งแกร่ง

269
0
Share:

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ สคฝ. (DPA) เดินหน้าภารกิจคุ้มครองเงินฝากอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานสถิติเงิน ณ สิ้นปี 2565 พบว่า มีจำนวนผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองรวมทั้งสิ้น 90.41 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 กว่า 4.58 ล้านราย เติบโตกว่า 5.34% (YoY) ครอบคลุมเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง รวมทั้งสิ้น 16.17 ล้านล้านบาท เติบโตกว่า 3.72% (YoY) ซึ่งมีผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98.02 ของผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สคฝ.ระบุว่า ปัญหาระบบการเงินที่เกิดขึ้นในต่างประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินไทย โดยเสถียรภาพของระบบ สถาบันการเงิน ในประเทศไทยยังคงมีความมั่นคงและแข็งแกร่งจากการกำกับดูแลของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงสถาบันคุ้มครองเงินฝาก หน่วยงานที่ทำหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นคุ้มครองเงินฝากให้ผู้ฝากและประชาชน

ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีจำนวนรวม 1.37 แสนล้านบาท มีสภาพคล่องที่ดี เข้มแข็งและมั่นคง พร้อมคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากและประชาชนในทุกสถานการณ์ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ได้แก่

-พร้อมคุ้มครองผู้ฝากอย่างมีประสิทธิภาพตามพันธกิจการคุ้มครองเงินฝากด้านการจ่ายคืนและชำระบัญชี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ฝากเงินทุกคน ว่าจะได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก และได้รับเงินฝากคืนภายในวงเงินที่กำหนดอย่างรวดเร็ว กรณีที่ สถาบันการเงิน ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองถูกเพิกถอนใบอนุญาต กระบวนการจ่ายคืนผู้ฝากต้องสะดวกรวดเร็ว ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด สถาบันฯ มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองทั้ง 32 แห่ง เพื่อทดสอบการรับส่งไฟล์ข้อมูลสถาบันการเงินผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมระบบประมวลผลข้อมูลและระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝาก

-พร้อมสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนให้มั่นใจในระบบคุ้มครองเงินฝากและเสริมภูมิคุ้มกันด้านการเงิน การสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับระบบการคุ้มครองเงินฝากนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความตื่นตระหนกของประชาชนและผู้ฝากเงินในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ หากสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือเกิดวิกฤติทางการเงินขึ้น โดยการใช้ช่องทางการสื่อสารและวิธีที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละช่วงวัย และยังได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการสร้างความร่วมมือด้านการสื่อสารกับหน่วยงานในเครือข่ายความมั่นคงทางการเงิน (FSN) ได้แก่ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้เกิดการสื่อสารอย่างครอบคลุมที่สุด

-พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินให้มีความมั่นคงและยั่งยืน เตรียมความพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผ่านการเตรียมความพร้อมในด้านการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในเครือข่ายความมั่นคงทางการเงิน และไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเงินฝากเชิงลึก (Data Analytics) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการวิจัยและวิเคราะห์สถานการณ์เงินฝาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน

-พร้อมพัฒนาศักยภาพองค์กรให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและมีธรรมาภิบาล การยกระดับขีดความสามารถให้กับบุคลากรและระบบเทคโนโลยีดิจิทัลขององค์กร นับเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝากและระบบปฏิบัติการภายในต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับช่องทางการสื่อสารเพื่อให้สถาบันฯ มีความพร้อมในการดำเนินงานตามพันธกิจอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องต่อผู้ฝากและประชาชน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา สคฝ. ยังได้ผนึกกำลังกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการส่งเสริมการออมและการคุ้มครองเงินฝาก รวมถึงความรู้ทางการเงินเจาะกลุ่มประชาชน โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นวินัยการออม สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากและการวางแผนทางการเงิน รวมถึงรู้เท่าทันภัยทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ผ่านเครื่องมือการสื่อสารที่หลากหลาย เพื่อขยายการเข้าถึงไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมที่สุด