เปิดแทคติก! ‘พิธา’ ส่งหนังสือติง กกต. จะส่งปมหุ้นไอทีวีถึงศาลรัฐธรรมนูญวันนี้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ได้ทำหนังสือท้วงติงและขอความเป็นธรรม และเป็นกลางไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กรณีจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยกรณีหุ้นไอทีวีในวันที่ 12 กรกฎาคม ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 13 กรฎาคม ซึ่งดูแปลกๆ และข้ามขั้นตอน เนื่องจากจนถึงขณะนี้ตนยังไม่เห็นคำร้องหรือข้อกล่าวหา รวมทั้งยังไม่ได้เข้าไปชี้แจงใดๆกับ กกต. เรื่องราวจึงไม่สมเหตุสมผล
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในวันนี้พรรคก้าวไกลได้ส่งหนังสือด่วนไปยัง กกต. เพื่อคัดค้านการที่กกต.จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยกรณีหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนที่ระเบียบ กกต. ระบุไว้เอง มีความเร่งรัดเกินกว่าเหตุ จนน่าสงสัยในเจตนาของ กกต. ว่ามีความเป็นกลางหรือไม่
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ตามระเบียบของ กกต. เมื่อมีการร้องเรียนผู้สมัครคนใดเกี่ยวกับการกระทำหรือการขาดคุณสมบัติ คณะกรมการต้องไต่สวน สืบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง จากนั้นให้แจ้งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ รวมถึงข้อกฎหมายทีเกี่ยวข้องให้ผู้ถูกร้องทราบ และให้ผู้ถูกร้องเข้าไปชี้แจง จากนั้นจึงดำเนินการต่อไปในการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ในกรณีนี้เมื่อไต่สวนรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว ยังไม่แจ้งข้อเท็จจริงให้นายพิธาทราบ และยังไม่เรียกเจ้าตัวไปชี้แจงด้วย แต่กลับจะเร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับ กกต. กำลังทำผิดระเบียบของตัวเอง
“ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ อีกเพียง 4 วัน จะถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี การที่จู่ๆ กกต. จะเร่งรัด ทำข้ามขั้นตอน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทันที อาจทำให้สังคมตั้งคำถามได้ว่าองค์กรอิสระทำหน้าที่อย่างไม่เป็นกลาง มีเป้าประสงค์ทางการเมืองหรือไม่ ผมเชื่อว่าประชาชนเฝ้ารอการโหวตนายกรัฐมนตรีกันทั้งประเทศ จึงไม่ควรมีการกระทำใดๆ ที่จะขัดขวางการตั้งรัฐบาลตามครรลองประชาธิปไตย” นายชัยธวัช กล่าว
ทั้งนี้ นายพิธา ยังกล่าวถึงการประชุมร่วมกัน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล วันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) ด้วยว่าเป็นเรื่องวิธีการขั้นตอน กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เท่านั้น เมื่อถามว่าถ้านายพิธาไม่ผ่านด่าน ส.ว. จริงๆ พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลแทนหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยังไม่มีสมมติฐาน รวมทั้งไม่มีแผนสอง
