เปิดแผนควบรวมทหารไทย – ธนชาต

938
0
Share:

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง กล่าวถึงการควบรวมธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารธนชาต (TBANK) ว่า กระทรวงการคลัง จะให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ TBANK กลับมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TMB ซึ่งหลังการควบรวมแล้วจะทำให้การบริหารงานของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการรวมจุดแข็งของ 2 ธนาคารที่ลงตัวเข้าไว้ด้วยกัน โดยธนาคารธนชาตมีความเชี่ยวชาญด้านเช่าซื้อ ขณะที่ธนาคารทหารไทยมีความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งการควบรวมดังกล่าวจะทำให้การทำงานดีขึ้น และเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย
.
โดยภายหลังการควบรวมแล้วจะยังคงใช้ชื่อ “ธนาคารทหารไทย” เหมือนเดิม โดยกลุ่มไอเอ็นจี ถือหุ้น 21.3% บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ถือหุ้น 20.4% กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 18.4 % สโกเทียแบงก์ 5.6% และผู้ถือหุ้นรายย่อย 34.3 % และมีเงื่อนไขว่ากระทรวงการคลังจะเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งประธานกรรมการธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือกับ CEO ของธนาคารทหารไทยแล้ว และยังดำเนินงานต่อไปปกติ
.
หลังจากนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งในการจัดการระบบภายในต่างๆ หลังการควบรวม แต่การควบรวมจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อได้สิทธิลดหย่อนภาษี
.
ทั้งนี้จากการควบรวมจะทำให้สถานะของธนาคารขยับขึ้นเป็นธนาคารขนาดใหญ่ อันดับ 6 ของประเทศ มีขนาดทรัพย์สิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งส่งผลดีต่อกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะน้อยลง แต่ผลตอบแทนจะได้มากขึ้น และยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นธนาคารทหารไทย
.
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต ยืนยันว่า จะไม่มีการปลดพนักงานของทั้ง 2 ธนาคารแต่จะเป็นการปรับรูปแบบการทำงาน โดยปัจจุบันทั้ง 2 ธนาคารมีสาขารวมกันเกือบ 1,000 สาขา จำนวนพนักงาน 19,000 คน