เปิดโมเดลสายการบินในเอเชีย-อาเซียนเสี่ยงล้มละลายสูง

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า จากการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่เรียกว่า แซท-สกอร์ (Z-score) ซึ่งพัฒนาโดยเอ็ดเวิร์ด อัลท์แมน ในช่วงยุคทศวรรษ 1960 เพื่อประเมินภาวะล้มละลายของธุรกิจสายการบินทั่วโลก บนภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 และการวิเคราะห์นี้ไม่ได้พิจารณาปัจจัยการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล หรือการระดมทุนจากแหล่งทุนอื่นๆ โดยสายการบินที่ได้คะแนนต่ำกว่า 1.8 ลงมา เข้าสู่ความเสี่ยงสายการบินล้มละลาย
.
ในขณะนี้ พบว่า ภายใน 2 ปีจากนี้ไป มีสายการบินที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะล้มละลาย หรือปิดกิจการ ได้แก่ ปากีสถาน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส มีความเสี่ยงมากที่สุดในโลก โดยได้คะแนน -6.83 อันดับ 2 คือ แอร์เอเชีย อินโดนีเซีย -1.41 อันดับ 3 นกแอร์(ไทย) -0.64 อันดับ 4 พีเอ็นจี แอร์ -0.63 อันดับ 5 เคนย่า แอร์เวย์ส -0.52 อันดับ 6 สไปซ์เจ็ท -0.23 อันดับ 7 เวอร์จิ้น ออสเตรเลีย -0.04 อันดับ 8 เอเชียน่า(เกาหลีใต้) 0.11 อันดับ 9 แอร์เอเชีย เอ็กซ์ 0.12 และอันดับ 10 คือ เอเวียนก้า 0.17
.
ในขณะที่ เครื่องมือวิเคราะห์ของสถาบันบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ หรือ BI ทำการวิเคราะห์ ระยะเวลาเป็นจำนวนเดือนที่เหลือก่อนที่ธุรกิจสายการบินจะล้มละลาย บนสมมุติฐานที่ว่า ไม่มีกระแสเงินสดเข้าบริษัท และยกเลิกบริการการบินทั้งหมด 100% จากภาวะโรคระบาดโควิด-19 พบว่า มี 7 สายการบินทั่วโลก ดังนี้ อันดับ 1 อินดิโก้ 13 เดือน อันดับ 2 แอร์เอเชีย 10 เดือน อันดับ 3 เจแปน แอร์ไลน์ 8 เดือน เท่ากับคาเธย์ แปซิฟิก 8 เดือน อันดับ 4 สิงคโปร์แอร์ไลน์ส 5 เดือน อันดับ 5 แควนตัส 4 เดือน เท่ากับแอร์เอเชีย เอ็กซ์ 4 เดือน อันดับ 6 เอเอ็นเอ โคเรียน แอร์ และแอร์ ไชน่า 3 เดือน อันดับ 7 เอเชียน่า ไชน่า อีสเทิร์น และไชน่า เซ้าท์เทิร์น ราว 1 เดือน.