เฟดคงดอกเบี้ยสูงต่อดันเงินบาททยอยแข็งค่าจากดอลลาร์อ่อนค่าลง จับตาโฟลว์ต่างชาติ

158
0
Share:
เฟดคงดอกเบี้ยสูงต่อดัน เงินบาท ทยอยแข็งค่าจากดอลลาร์อ่อนค่าลง จับตาโฟลว์ต่างชาติ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.04 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.85-36.15 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ (แกว่งตัวในช่วง 36.06-36.29 บาทต่อดอลลาร์) อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นไปตามที่ตลาดคาด (คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%) อีกทั้งโทนการสื่อสารของเฟดก็ไม่ได้มีความ Hawkish มากนัก ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มปรับลดโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ เหลือราว 30% (ลดลงจากราว 38% ในสัปดาห์ก่อน)

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท บรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) มากขึ้น อาจช่วยหนุนให้เงินบาทสามารถคงโมเมนตัมการแข็งค่าจากช่วงหลังรับรู้ผลการประชุมเฟดได้ ซึ่งต้องจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติว่าจะทยอยกลับเข้ามาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยได้หรือไม่ หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติยังมีทิศทางไม่ชัดเจน อย่างไรก็ดี หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ต่อเนื่อง ก็อาจติดโซนแนวรับสำคัญแถว 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจรอจังหวะเข้าซื้อเงินดอลลาร์ หรือ ทยอยขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB (มองเงินบาทแข็งค่า)

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพราะแม้ว่าตลาดจะคาดหวังว่า BOE จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากภาพเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงมากขึ้น แต่หาก BOE กลับมากังวลแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น ก็อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้ เงินปอนด์อังกฤษ อ่อนค่าลงได้บ้าง ซึ่งภาพดังกล่าวก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินดอลลาร์ยังไม่สามารถอ่อนค่าลงได้ชัดเจน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เช่น ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดที่มีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับเงินเยนญี่ปุ่น ควรระมัดระวังความผันผวนของค่าเงินเยนในช่วงนี้ หลังจากที่ล่าสุด ทางการญี่ปุ่นได้ส่งสัญญาณเตือนว่า ค่าเงินเยนมีการอ่อนค่าต่อเนื่อง มากเกินไป ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าว มักจะสอดคล้องกับการเข้าแทรกแซงค่าเงินของทางการญี่ปุ่น หากเงินเยนกลับมาอ่อนค่าลงต่อชัดเจน ทะลุระดับ 153 เยนต่อดอลลาร์ขึ้นไป (ATR ใน time frame รายวัน ควรใกล้ถึงระดับ 2 เยนต่อดอลลาร์) ก็อาจเปิดโอกาสให้ทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงค่าเงินได้

อย่างไรก็ตาม คงมุมมองเดิมว่า ค่าเงินเยนได้อ่อนค่าลงหนัก เกินปัจจัยพื้นฐานไปพอสมควร (undervalued) ทำให้เงินเยนมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นทดสอบโซน 145 เยนต่อดอลลาร์ ณ สิ้นปีนี้ และระดับ 135 เยนต่อดอลลาร์ ณ สิ้นปีหน้าได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สามารถปรับตัวลดลงได้จริงตามคาด