เฟ้อลด !เงินเฟ้อ ไทย พ.ย. หดตัว 0.44% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ลดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี

221
0
Share:

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตรา เงินเฟ้อ ทั่วไปเดือน พ..66 อยู่ที่ 107.45 ลดลง 0.44% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไป 11 เดือนแรกของปีนี้ (..-..) เฉลี่ยอยู่ที่ 1.41%

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน พ..66 อยู่ที่ 104.52 เพิ่มขึ้น 0.58% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐาน 11 เดือนแรกของปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.33%

ทั้งนี้ดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อของไทย เดือนพฤศจิกายน 2566 เท่ากับ 107.45 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งเท่ากับ 107.92 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงร้อยละ 0.44 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 33 เดือน สาเหตุสำคัญยังคงเป็นมาตรการภาครัฐด้านพลังงาน ที่ทำให้สินค้าในกลุ่มพลังงานปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันในกลุ่มดีเซล และแก๊สโซฮอล์ 91 นอกจากนี้ เนื้อสุกร ไก่สด และน้ำมันพืช ราคาต่ำกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้นร้อยละ 0.58

อัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนตุลาคม 2566 พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยลดลงร้อยละ 0.31 ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 8 จาก 135 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และยังคงต่ำที่สุดในอาเซียนจาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย) โดยอัตราเงินเฟ้อของไทยเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกับในหลายประเทศทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง แม้ภาพรวมอัตราเงินเฟ้อของไทยจะติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และในเดือนธ..66 ก็ยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารโลกหากอัตราเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 1 ไตรมาสจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่อัตราเงินเฟ้อของไทยที่ติดลบมาจากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลโดยผ่านลดคาไฟฟ้าและน้ำมัน โดยราคาสินค้าและบริการส่วนใหญ่ไม่ได้ลดลงตาม ดังนั้น จึงยังไม่ถือเข้าสู่ภาวะเงิอนฝืดแต่อย่างใด

สนค.คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ระหว่างร้อยละ 1.0 – 1.7 (ค่ากลางร้อยละ 1.35) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 คาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2566 ส่วนปัจจัยที่สนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวดีขึ้น อาทิ ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2566 รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการของรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ค่าเงินบาทที่ผันผวน และมาตรการภาครัฐที่ส่งผลต่อราคาอาจมีหลากหลายรูปแบบ จึงคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 จะอยู่ระหว่างร้อยละ -0.3 – 1.7 ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง