เมอส์ก สายเรือขนส่งสินค้าระดับโลกปลดพนักงาน 10,000 คน สารพัดปัจจัยลบเศรษฐกิจโลกปีหน้า

241
0
Share:
เมอส์ก สายเรือขนส่งสินค้าระดับโลก ปลดพนักงาน 10,000 คน สารพัดปัจจัยลบเศรษฐกิจโลกปีหน้า

นายวินเซ้นท์ เคลอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เมอส์ก (MAERSK) ยักษ์ธุรกิจสายเดินเรือขนส่งสินค้าชื่อดังระดับโลก กล่าวว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ยังคงลดลงอย่างมากทั้งรายได้และกำไร รายได้ตกต่ำลงมาเหลือที่ 12,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 447,700 ล้านบาท ทรุดลงมากถึง -47% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา สอดคล้องกับกำไรที่ตกต่ำมาอยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70,300 ล้านบาท ดำดิ่งจากเดิมที่ 10,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 403,300 ล้านบาท ทรุดลงมากถึง -473% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา

ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ด้วยการประกาศปลดพนักงานเกือบ 10% มีจำนวนมากถึง 10,000 คน จากทั้งหมด 110,000 คนในปัจจุบัน ส่งผลให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 22,200 ล้านบาทในปี 2024

ซีอีโอ เมอส์ก (MAERSK) เปิดเผยว่า ในปีนี้ 2023 ปริมาณคอนเทนเนอร์ขนส่งทางทะเลในปีนี้ ซึ่งเป็นรายได้หลักสำคัญที่สุด จะชะลอตัวลง 2% สาเหตุจากความต้องการของลูกค้าชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดส่งออกโลกชะลอตัว และการระบายสต็อกสินค้าเดิมที่บริษัทต่างๆไม่สามารถขายส่งออกสินค้าเดิมได้ในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19

สำหรับในปีหน้า 2024 เมอส์ก (MAERSK) ซึ่งมีส่วนแบ่งการขนส่งคอนเทนเนอร์ถึง 1 ใน 6 หรือ 17% ของปริมาณคอนเทนเนอร์ทั่วโลก ประเมินว่า ความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ความปกติใหม่ที่ส่งผลต่อของการค้าโลกและการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้มุมมองเศรษฐกิจมหภาคในปีหน้าไม่สดใส และความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลจะยังชะลอตัวต่อเนื่อง ภาวะเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงในปี 2024 กระทบต่อผลดำเนินงานโดยเฉพาะต้นทุนของบริษัท และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นของปัญหาความขัดแย้งการเมืองในภูมิภาคต่างๆ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022 เมอส์ก เปิดเผยว่าความต้องการการขนส่งและโลจิกติกส์ชะลอตัวชัดเจน สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกปี 2022 เข้าสู่วงจรชะลอตัว ดังนั้นจึงปรับลดแนวโน้มปริมาณขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ในปี 2565 ลดลง 2-4% จากเป้าหมายเดิม

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายโซเออเรน สคู กล่าวว่า ปัจจัยลบที่ยังคงมีอยู่มากมาย ได้แก่ สงครามรัสเซียกับยูเครน เงินเฟ้อในระดับสูง ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งหมดยังคงเป็นตัวหน่วงตลาดขนส่งสินค้าทางทะเลและโลจิสติกส์

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทเมอส์กปิดตลาดในคืนผ่านมา ปรากฏว่ามีราคาดำดิ่งถึง -17.5% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 ปีผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นเคยขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2022 ที่ราคาหุ้นละ 24,920 โครนเดนมาร์ก หรือราคาหุ้นละ 124,600 บาท ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนปี 2022 ราคาหุ้นเมอส์กร่วงลงมามากถึง 38% นับตั้งแต่ต้นปี 2022