เมื่อไทยโดดเข้าเขตร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก 13 ประเทศ ขนาดใหญ่ 40% ของเศรษฐกิจโลก

385
0
Share:
เมื่อ ไทย โดดเข้าเขตร่วมมือ เศรษฐกิจ อินโด-แปซิฟิก 13 ประเทศ ขนาดใหญ่ 40% ของเศรษฐกิจโลก

เมื่อวานนี้ 23 พฤษภาคม 2565 กลายเป็นวันประวัติศาสตร์ทางเศรษฐกิจโลกที่เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจของ 13 ประเทศสมาชิก ทำให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันถึง 40% ของเศรษฐกิจโลก โดยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน แถลงประกาศเปิดตัวกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก หรือ Indo-Pacific Economic Framework เรียกสั้นๆว่า IPEF ซึ่งจัดขึ้น ณ สถานที่ที่มีชื่อว่า Tokyo Izumi Garden Gallery กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

IPEF ประกอบด้วย 13 ประเทศร่วมก่อตั้ง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไทย อย่างไรก็ตาม ประเทศในกลุ่มอินโดจีนที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งในครั้งนี้ มี 3 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา นอกจากนี้ ไม่มีไต้หวันเข้าร่วมด้วย

ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า กรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก หรือ IPEF จะเน้นความสำคัญ 4 ด้านในการสร้างความทุ่มเทที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งในภูมิภาคดังกล่าว ประกอบด้วย การเชื่อมต่อเศรษฐกิจ โดยเน้นด้านการค้าด้วยเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่จะเชื่อมต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME โดยใช้ประโยชน์จากภาวะการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้

ต่อมาเป็นด้านเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น โดยเน้นด้านห่วงโซ่การผลิต หรือ Supply Chain จะทำให้เกิดการประเมินได้ดีขึ้นกว่าเดิม และป้องกันการสะดุดหยุดลงของห่วงโซ่การผลิต ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจยืดหยุ่น

ด้านเศรษฐกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม จะทำให้เกิดความทุ่มเทด้านพลังงานสะอาด การลดสภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ และโครงสร้างพื้นฐานในการสนับสนุนงานที่จ่ายผลตอบแทนอย่างดี

สุดท้ายด้านเศรษฐกิจเป็นธรรม ด้วยการทุ่มเทในการออกกฎเกณฑ์ และบังคับใช้มาตรการทางภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ การต่อต้านการฟอกเงิน และการต่อต้านระบอบการติดสินบน

ทั้งนี้ การแถลงการณ์เปิดตัวกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก หรือ Indo-Pacific Economic Framework เรียกสั้นๆว่า IPEF มีนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีอินเดีย ร่วมงานเปิดตัวดังกล่าวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นด้วย ท่ามกลางการบรรดานายกรัฐมนตรีอีก 10 ประเทศเข้าร่วมแถลงการณ์ผ่านระบบประชุมทางไกลมายังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น