เร่งสร้างโรงไฟฟ้าช่วยภาคใต้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสั่งเร่งแผนตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนโมเดล 1 ให้เสร็จภายใน 3 เดือน พร้อมสั่งปรับแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่สุราษฎร์ธานี 2 แห่ง ให้เร็วขึ้นอีก 2 – 3 ปี วงเงินลงทุน 70,000 ล้านบาทเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าภาคใต้
.
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการประชุมแผนขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพลังงานว่า มีโครงการเร่งด่วนจะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เช่น การจัด ตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนโมเดล 1 ซึ่งเบื้องต้นจะสามารถกำหนดเงื่อนไข หลักเกณฑ์และรูปแบบของโรงไฟฟ้าชุมชนได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะเร่งให้โครงการเร่งด่วนที่มีความพร้อม หรือ โครงการ Quick Win สามารถเข้าระบบได้ในครึ่งปีแรกของปี 2563
.
ขณะที่การส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10 ที่มีส่วนผสมบี 100 ในสัดส่วน 10% เป็น น้ำมันดีเชลพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานเปิดตัวแคมเปญกระตุ้นการใช้ บี10 คาดว่าจะทำให้เกิดความต้องการใช้ดีเซลบี10 อยู่ 57 ล้านลิตรต่อวัน ภายในไตรมาส 2 ปี 2563
.
รวมทั้งการกำกับการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ซึ่งได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการมาดูแล โดยจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 1-2 เดือน
.
นอกจากนี้ยังมีแผนการปรับปรุง แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ การใช้และการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน การส่งเสริมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แผนการบริหารเอทานอล ซึ่งแผนทั้งหมดจะต้องนำกลับมานำเสนอรายละเอียดอีกครั้งภายในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้
.
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เร่งรัดให้ กฟผ.ปรับแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 โรง รวมกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์ โดยกำชับว่าต้องสร้างให้เร็วขึ้น 2-3 ปี จากเดิมสร้างเสร็จปี 2570 และ 2571 ก็ให้ปรับให้สร้างเสร็จปี 2568 และ 2569 คาดเงินลงทุนประมาณ 70,000 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ต้องเร่งรัด เนื่องจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานได้เสนอให้เร่งก่อสร้าง หลังจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ถูกชะลอไปโดยไม่มีกำหนด แต่กำลังผลิตไฟฟ้าภาคใต้ยังมีไม่พอเพียง
.