เลิกฝันเฟื่อง! นักบริหารระดับสูงเกือบครึ่งชี้ธุรกิจเมตาเวิร์สล้มเหลว และมองว่าอีกยาวไกลในการลงทุนเมตาเวิร์ส

271
0
Share:

เคพีเอ็มจี (KPMG) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการที่ปรึกษาด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจของหัวหน้าทีมทีเอ็มที (TMT) ของเคพีเอ็มจีเกี่ยวกับมุมมองของผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาคธุรกิจที่มีต่อโมเดลธุรกิจเมตาเวิร์ส พบว่า เมตาเวิร์สมีศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับการสร้างผลประกอบการธุรกิจมากโดยเฉพาะผลกำไร แต่ขาดการพิสูจน์ถึงความสำเร็จสำหรับภาคเอกชนที่จะทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากกับโมเดลเมตาเวิร์สในปัจจุบัน

นายมาร์ก กิ๊บสัน หัวหน้าทีมทีเอ็มที เคพีเอ็มจี สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า สำหรับบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สื่อ โทรคมนาคม ไปจนถึงอุตสาหกรรมพื้นฐานเกี่ยวกับการบริโภคของมนุษย์ ทั้งหมดกำลังเผชิญกับการลงทุนที่้ป็นหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างมาก นั่นหมายถึง จะลงทุนที่ไหน และจะลงทุนมูลค่าเท่าไหร่กับการสร้างเมตาเวิร์ส ในขณะที่ช่วยให้เกิดการลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้วยเงินจำนวนมากกับโครงการเมตาเวิร์สที่จะเกิดภาวะล้นตลาดในที่สุด

ผลสำรวจ พบว่า 60% ของนักบริหารที่ตอบการสอบถามในครั้งนี้ คิดว่าโมเดลธุรกิจเมตาเวิร์สสามารถผลักดันให้เกิดรายได้ และผลกำไร ในขณะเดียวกันลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากธุรกรรมทางธุรกิจไปอยู่บนโลกเสมือนจริง อย่างไรก็ตาม ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน พบว่า ถึงแม้เมตาเวิร์สจะมีศักยภาพมากมายก็ตาม แต่ยังคงต้องการการพัฒนาและการกลั่นกลองอีกมากมาย โดยเฉพาะต้องใช้เวลาอีกนานหลายปีที่จะนำมาใช้ในระบบนิเวศน์เศรษฐกิจด้านการค้าขายหรือการพาณิชย์

บริษัทชั้นนำระดับโลกส่วนใหญ่จากผลสำรวจดังกล่าวถึง 70% กำลังลงทุนน้อยกว่า 5% ของงบประมาณด้านเทคโนโลยีของบริษัทในปี 2023 ในโมเดลธุรกิจเมตาเวิร์ส ที่สำคัญ พบว่าบริษัทชั้นนำถึง 27% ไม่มีการจัดงบประมาณประจำปีในการลงทุนธุรกิจโมนเดลเมตาเวิร์สแม้แต่น้อย

เคพีเอ็มจี (KPMG) ยังเปิดเผยต่อไปว่า 40% ของนักบริหารที่ถูกสำรวจ มองว่า เมตาเวิร์สขาดความเป็นจริงในการพิสูจน์ว่าเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาให้องค์กร นอกจากนี้ 27% กล่าวว่าเมตาเวิร์สไม่ต่างอะไรกับสิ่งเพ้อฝัน หรือเป็นท่อส่งต่อหรือรับส่งข้อมูลแห่งความฝันที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ และ 20% กล่าวว่า เมตาเวิร์สเป็นสิ่งที่คลั่งไคล้ประเดี๋ยวประด๋าว ที่ไม่สามารถพิสูจน์ถึงความน่าสนใจในตัวของเมตาเวิร์สเอง

ในขณะที่ 50% ของนักบริหารมองว่า บริษัทกำลังรอและกำลังเฝ้าดู หรือประเมินคุณค่าการลงทุนในระยะยาวกับธุรกิจโมเดลเมตาเวิร์สก่อนจะตัดสินใจการลงทุนอย่างแท้จริงและจริงจัง

ด้านบริษัทเทคโนโลยี หรือบันเทิงชัเนนำระดับโลกล้วนประสบผลประกอบการที่ย่ำแย่และเลวร้ายในปี 2022 ที่ผ่านไป ประกอบด้วย เมตา อินคอร์ปอเรชั่น พบว่า สายงานธุรกิจเมตาซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อบุกเบิกธุรกิจโมเดลเมตาเวิร์สประสบกับผลขาดทุนที่เกิดจากการดำเนินงานสูงถึง 13,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 480,200 ล้านบาท ส่งผลราคาหุ้นถูกกระหน่ำเทขายหนักถึง -60% ในปีผ่านไป เมตา อินคอร์ปอเรชั่น ต้องประกาศปลดพนักงานถึง 2 รอบ เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2022 และเดือนมีนาคม 2023 รวมกันมากถึง 21,000 คน

ทั้งนี้ การสำรวจของเคพีเอ็มจีในครั้งนี้ได้ทำการสำรวจผู้บริหารระดับบริหารจำนวน 767 คนที่มาจากธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจสื่อ ธุรกิจโทรคมนาคม และอื่นๆ ซึ่งมีผลประกอบการด้านรายได้มากกว่าปีละ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,750 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ กลุ่มผู้ถูกสำรวจดังกล่าวมาจาก 13 ประเทศที่แตกต่าง และกระจายอยู่ใน 5 ทวีปทั่วโลก