เวียดนามกับไทยอาจดันราคาข้าวตลาดโลกแพงกระฉูดประวัติการณ์ตันละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

5969
0
Share:
เวียดนาม กับ ไทย อาจดัน ราคาข้าวตลาดโลก แพงกระฉูดประวัติการณ์ตันละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

นายปีเตอร์ ทิมเมอร์ ศาสตราจารย์กิตติคุณแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตั้น รัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ราคาข้าวตลาดโลกที่มีราคาสูงในรอบกว่า 15 ปีในขณะนี้ ย่อมส่งผลกระทบรุนแรงมากที่สุดต่อผู้บริโภคที่ยากจน ขณะนี้ ความน่ากังวล หรือปัจจัยที่มีผลมากที่สุดในปัจจุบันขึ้นอยู่กับประเทศเวียดนาม และประเทศไทย จะใช้นโยบายจำกัดการส่งออกข้าวเหมือนประเทศอินเดีย และใช้มาตรการสำคัญในการควบคุมการส่งออกข้าว ถ้าความกังวลดังกล่าวเกิดขึ้น ทั่วโลกจะได้เห็นราคาข้าวมีราคาสูงถึงตันละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติสูงสุดมากเป็นประวัติการณ์ จากราคาในปัจจุบันที่ตันละ 646 ดอลลาร์สหรัฐ

สถานการณ์ราคาข้าวตลาดโลกมีราคาพุ่งสูงต่อเนื่องในช่วง 6 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนครึ่งผ่านมา หลังจากเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2023 รัฐอินเดียประกาศมาตรการจำกัดการส่งออกข้าวแทบทุกประเภทไปตลาดโลก เพื่อแก้ไขภาวะอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะก่อนที่รัฐบาลอินเดียจะประกาศใช้มาตนการดังกล่าวนั้น ราคาข้าวภายในประเทศอินเดียมีราคาสูงมากกว่าในปีผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในทุกวันนี้ ราคาข้าวบริโภคในประเทศอินเดียทรงตัวในระดับสูงถึงกิโลกรัมละ 39 รูปีอินเดีย หรือ 47 เซ็นต์สหรัฐต่อกิโลกรัม

ในสัปดาห์ผ่านมา รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศมาตรการจำกัดเพดานราคาข้าวขายปลีกทั่วประเทศ หลังจากพบว่าต้นทุนค้าปลีกเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงบรรดานายหน้าขายส่งข้าวในประเทศแห่กักตุนข้าวต่อเนื่อง

นับตั้งแต่อินเดียใช้มาตรการดังกล่าว ส่งผลให้บรรดาผู้ส่งออกข้าวในแถบประเทศของเอเชียต้องเสนอปรับราคาขายข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นถึง 20% จากราคาปกติ

ราคาข้าวในตลาดโลกในเดือนสิงหาคมนี้ ยังคงทำสถิติสูงในรอบ 15 ปี ทำให้ผู้ส่งออกเวียดนามมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 15-40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 525-1,400 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบจากราคาข้าวในช่วงก่อนหน้าที่รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการห้ามส่งออกข้าวแทบทุกชนิด ซึ่งทำให้ปริมาณข้าวในตลาดโลกหายไปถึง 10 ล้านตัน โดยอินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวใหญ่อันดับ 1 ของโลก ด้วยปริมาณข้าวมากถึง 40% ของตลาดโลกมาจากอินเดีย