เศรษฐกิจจีนชะลอหนัก ผงะหนี้รัฐบาลจีนพุ่งสูงถึง 3 เท่าของจีดีพี สูงสุดในรอบ 27 ปี

ธนาคารการชำระธุรกรรมระหว่างประเทศ หรือ BIS เปิดเผยว่า ภาวะหนี้ของรัฐบาลประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าภาวะหนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเงินพุ่งทะยานขึ้นถึง 51.87 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 265 ล้านล้านบาท คิดเป็น 295% ของมูลค่าเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของจีนแผ่นดินใหญ่ ทำสถิติสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีสูงสุดในรอบ 27 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา

สิ่งสำคัญ คือการก่อหนี้ของจีนแผ่นดินใหญ่ยังพุ่งสูงเหนือกว่าการคาดการณ์ในช่วงสิ้นสุดปี 2020 ซึ่งเกิดภาวะเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ทั้งๆที่ภาคเอกชน และภาคครัวเรือนในจีนลดการกู้ยืมหนี้สินลง

ธนาคารการชำระธุรกรรมระหว่างประเทศ หรือ BIS เปิดเผยว่า สาเหตุที่จำนวนและสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีของจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างมากเกือบ 3 เท่า เป็นผลจากรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละมณฑลต้องกู้ยืมเงินทุนต่างๆ มาใช้สนับสนุนนโยบายไม่อยู่ร่วมโควิด-19 ของรัฐบาลกลางจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงการกู้ยืมมาฟื้นฟูและกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจในแต่ละมณฑลที่ตกต่ำจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 และผลกระทบจากมาตรการควบคุมและป้องกันโรคดังกล่าวโดยเฉพาะการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนเมษายนเป็นเวลา 2 เดือน กระทบจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวเหลือแค่ 0.4% ย่ำแย่ครั้งหนึ่งในประวัติการณ์

นอกจากนี้ การกู้ยืมของรัฐบาลจีนในแต่ละมณฑลเพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลกลางในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องระดมทุนเงินกู้ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นจำนวนมาก ซึ่งมูลค่าหนี้ใหม่คาดว่าจะพุ่งสูงถึง 4 ล้านล้านหยวน หรือ 570,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20.2 ล้านล้านบาทในสิ้นปีนี้

บีไอเอส เปิดเผยต่อไปว่า สถานการณ์การกู้ยืมของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เร่งตัวมากขึ้น โดยมีสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีพุ่งขึ้นเกือบ 6% ระหว่างสิ้นปี 2020 มาถึงสิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางการกู้ยืมของภาคเอกชนและครัวเรือนลดลงในช่วงเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ เมื่อกรกฎาคมปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนจะเกิดโรคระบาดโควิด-19 ในช่วงปลายปีเดียวกันนั้น สถานการณ์หนี้ในภาพรวมทั้งหมดของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งครอบคลุมทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้เอกชน และหนี้รัฐบาลทั้งหมด พุ่งทะยานสูงถึง 303% ของจีดีพีประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2019 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2018 ที่มีสัดส่วนสูงถึง 297% ต่อจีดีพี จากนั้นเป็นต้นมา เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 2 ปีดังกล่าวเริ่มชะลอตัวลงด้วยจีดีพีขยายตัวเหลือ 6.2% ต่ำสุดในรอบ 27 ปี