เศรษฐกิจจีนปีเสือถูกใส่เกียร์ถอยต่ำ 5% ฟิทช์ เรตติ้งส์ ลดจีดีพีจีนเหลือ 4.3%

273
0
Share:
เศรษฐกิจจีน

ฟิทช์ เรตติ้งส์ อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือเรตติ้งในการลงทุนชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจจีนปี 2565 จากเดิม 4.8% ลงมาเหลือเพียง 4.3% สาเหตุจากนโยบายไม่อยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ทำให้รัฐบาลจีนต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์บ่อยครั้ง และเป็นระยะเวลานานมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจให้สะดุดหยุดลงครั้งแล้วครั้งเล่า
.
สิ่งสำคัญ คือ ฟิทช์ เรตติ้งส์ ประเมินว่ารัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2023
.
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเมษายนที่ผ่านไปนั้น สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกจำนวนมาก ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีในปี 2565 ครั้งใหม่ หลังจากบางแห่งพึ่งปรับลดตัวเลขจีดีพีได้ไม่ถึงสัปดาห์ดีนัก ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยตัวเลขจีดีพีปี 2565 ของจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.5% ซึ่งเป็นตัวเลขเป้าหมายที่ลดต่ำกว่ารัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนปี 2565 จะอยู่ที่ระดับ 5.5%
.
โนมูระ โฮลดิ้งส์ เป็นสถาบันการเงินแห่งเดียวในขณะนี้ที่ประกาศปรับลดตัวเลขจีดีพีจีนลงต่ำที่สุดอยู่ที่ 3.9% จากเดิมที่ประเมินว่าจะขยายตัวที่ระดับ 4.3% ในเวลาเดียวกัน ธนาคารยูบีเอสเป็นเพียงแห่งเดียวที่ปรับลดตัวเลขจีดีพีจีนลงมากที่สุดถึง 0.8% มาเหลือที่ระดับ 4.2% ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลดจีดีพีมากเป็นอันดับ 2 ถึง 0.6% มาเหลือที่ 4.8%
.
อย่างไรก็ตาม ธนาคารซิตี้กรุ๊ป มีตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ระดับ 5.1% ในปี 2565 ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเดียวที่มีตัวเลขจีดีพีจีนสูงกว่าทุกสถาบันการเงิน
.
ในส่วนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟนั้น ได้ประกาศลดเป้าจีดีพีของจีนแผ่นดินใหญ่ปี 2565 ลง 0.4% จากเดิมที่ประเมินว่าจะขยายตัวระดับ 4.8% เมื่อเดือนมกราคมมาเหลือที่ระดับ 4.4%
.
สาเหตุที่สถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก ปรับลดภาวะการขยายตังทางเศรษฐกิจจีนในปี 2565 เป็นผลจากนโยบายไม่อยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์บ่อยครั้ง ส่งผลกระทบภาคอุตสาหกรรม การผลิต และธุรกิจเกิดการสะดุดหยุดลงบ่อยครั้ง ไอเอ็มเอฟมองว่า การล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ จะนำไปสู่ปัญหาคอขวดห่วงโซ่การผลิตโลก